เกมฟุตบอลลีกของไทย ผ่านสัปดาห์ที่ 4 ไปแล้ว ยังคงมีเรื่องให้ได้พูดถึงกันอยู่หลายเรื่อง มาเริ่มกันที่ผลงานอันเป็นสถิติกันสักหน่อยก่อนครับ
ผ่านเกมที่ 4 ยังคงเหลือทีมในลีกสูงสุดที่สามารถเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่องเป็นเกมที่ 4 นำเป็นจ่าฝูงในตอนนี้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ผลงานการสังหารไปแล้ว 11 ประตู และยังไม่มีคู่ต่อสู้ที่ผ่านมายิงพวกเขาได้เลยสักลูก 12 คะแนนเต็ม กับประตูได้ +11 ลูก เป็นสถิติที่สวยหรูเลยสำหรับ “แข้งเทพ” ในฤดูกาลนี้ จะว่าไปนี่คือสถิติการเริ่มต้นฤดูกาลที่ดีที่สุดของสโมสรก็ว่าได้
การเข้ามาทำทีมของ ออเรลิโอ วิดมาร์ ตั้งแต่ฤดูกาลก่อน ส่งผลให้เห็นว่าเขาเหมาะสมเพียงใดในการกุมบังเหียน “แข้งเทพ” และแน่นอนว่า นี่คือทีมลุ้นแชมป์อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ส่วนอีกทีมที่ผลงานออกสตาร์ทดีไม่แพ้กันก็คือ ราชบุรี เอฟซี การเก็บแต้มเต็ม 12 แต้ม และยังไม่เสียประตูให้ใครเช่นกัน ถือเป็นผลงานที่สร้างความเซอร์ไพร์สได้ไม่น้อยเลย
การได้ จักรพันธ์ แก้วพรหม มาบัญชาการเกมในแดนกลาง ที่ผลงานส่วนตัวที่สามารถติดทีมยอดเยี่ยมได้ 2 จาก 4 เกมที่ลงเล่น ผนึกกำลังกับแนวรุก ALVIN MATEUS FORTES ถือเป็นการเติมที่ถูกจุด ส่งผลให้ผลงานทีมโดยรวมดีขึ้นด้วย
แชมป์เก่า “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นัดล่าสุดต้องตามตีเสมอคู่ปรับตัวฉกาจ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งหลัง ทำให้รอดพ้นจากความพ่ายแพ้ไปได้
เกมนี้จบลงไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเกมยังคงพูดถึงมาจนวันนี้ โดยเฉพาะประเด็นการแจกใบเหลืองของผู้ตัดสิน ประหนึ่งการจับจ่ายของประชาชนจากโครงการคนละครึ่งของรัฐ
ฝั่งที่ได้รับแจกมากที่สุดเป็นทีมเยือน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ได้ไปท่วมท้น 10 ใบเหลือง และ 1 ในนั้นเป็นใบเหลือง-แดง
ประเด็นนี้ถูกพูดถึงเป็นอย่างในหลายสื่อกีฬา มีการหยิบยกประเด็น “จำนวน” ใบเหลืองที่แจกในเกมนี้ให้กับฝั่ง “กระต่ายแก้ว” และทางทีมก็มีการยื่นเอกสารให้ทางสมาคมฯ พิจารณาการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมนี้
ขอไม่เอ่ยชื่อผู้ตัดสินในเกมนี้ และผมเองไม่ได้ดูเกมนี้ในการถ่ายทอดสด แต่ก็ได้ย้อนกลับไปดูย้อนหลังแบบเต็มเกม เลยพอมีมุมมองบ้างในเรื่องของการให้ใบเหลือง
ส่วนใหญ่การให้ใบเหลืองจะมีหลักอยู่ไม่กี่ข้อ อย่างแรกที่เราเห็นกันอยู่เป็นประจำคือการทำฟาวล์ การเล่นแรงเกินกว่าเหตุ แต่ไม่ถึงกับที่จะให้เป็นใบแดง
มีอยู่ประเด็นนึงที่จะเป็นใบเหลืองอัตโนมัติ นั่นคือการทำฟาวล์ในเขตโทษ และผู้ตัดสินให้เป็นจุดโทษ จะมีของแถมอัตโนมัติเป็นใบเหลือง
แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามถ้าเป็นการขัดขวางการเป็นประตู ขัดขวางโอกาสในการทำประตู จะมีของแถมอัตโนมัติเป็นใบแดง
คำว่าอัตโนมัตินี้ เป็นภาษาพูดทั่วไปที่ในทางการถูกเขียนไว้ใน Laws of the Game หรือกฎ กติกา การแข่งขันที่ผู้ดูแลในระดับโลกอย่าง FIFA เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์เหล่านี้เอาไว้
นี่คือคู่มือของผู้ตัดสินที่ต้องอิงไปตามคู่มือนี้ หากเข้าข่าย ไม่ต้องรีรอสามารถปฏิบัติตามได้เลย
อีกเรื่องคือการขัดคำสั่งของผู้ตัดสิน ที่เราเห็นอยู่ทั่วไปคือการเถียงผู้ตัดสิน เมื่อผู้ตัดสินได้ตัดสินไปแล้ว นั่นคือการไม่ยอมรับคำตัดสิน ในภาษาทางการเรียกว่า “ขัดคำสั่งผู้ตัดสิน”
ซึ่งในเกมล่าสุดที่มีปัญหานั้น จำนวนใบเหลืองที่แจกไปนั้น เข้าข่ายอย่างที่ผมเรียบเรียงมาข้างต้น แต่ก็จะมีบางจังหวะโดยเฉพาะการให้ใบเหลืองจากการทำฟาวล์คู่แข่ง ในลักษณะเกินกว่าเหตุ
กรณีการให้ใบเหลือง จะไม่มีการตรวจสอบโดย VAR ดังนั้นเสี้ยววินาทีของผู้ตัดสินที่เป่าฟาวล์แล้วแจกใบเหลือง อาจจะเกิดความผิดพลาดได้ ซึ่งในเกมนี้ก็อาจมองได้ว่า “มี”
ดังนั้นจำนวนใบเหลืองอาจจะไม่ใช่ประเด็น สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือ เหตุที่นำมาซึ่งใบเหลืองนั้นมันสมเหตุสมผลหรือไม่ ผู้ตัดสินปฏิบัติตามคู่มือหรือไม่ และปฏิบัติเช่นเดียวกันทั้งสองฝ่ายหรือไม่ ซึ่งสำคัญมากกว่า “จำนวน” มากมายครับ
สิ่งที่อาจจะไม่ค่อยมีใครพูดถึงนักก็คือ บิ๊กแมทช์นัดนี้ มีคนเข้าไปดูในสนาม 21,648 คน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือยอดคนดูสูงสุดในฤดูกาลนี้ ค่าตั๋วที่เก็บได้คือ 1.4 ล้านบาท
ส่วนของที่ระลึกประกาศแจ้งว่าขายได้ 9.7 ล้านบาท นั่นหมายความว่า ยอดรวมของ 2 รายได้ในนัดนี้คือ 11.1 ล้านบาท คิดแบบกลม ๆ หลับตานึกแป๊บนึง อ้าวนี่คือจำนวนที่สูงกว่าที่ทีมแชมป์ไทยลีก 1 ได้รับอีกนะครับ
ส่วนท้ายตารางมี หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่แข่งไป 4 นัดยังไม่มีคะแนน และยิงใครไม่ได้ ส่วน โปลิศ เทโร เอฟซี เกมนัดล่าสุดพวกเขาเตะไม่จบเพราะสภาพสนามที่เต็มไปด้วยน้ำจากฝนตกหนัก ทำให้เกมนี้ต้องเลื่อนออกไปเตะตามเวลาที่เหลืออีกครั้ง
ทำให้ในตารางคะแนนพวกเขา ณ ปัจจุบันยังคงไม่มีคะแนนเช่นกัน ส่วน สุโขทัย เอฟซี เป็นทีมสุดท้ายในตารางคะแนนปัจจุบันที่ต้องตกชั้น มีแค่เพียง 1 คะแนน
ส่วน ลำพูน วอริเออร์ นัดล่าสุดเปิดบ้านแพ้ ชลบุรี เอฟซี ทำให้ยังคงมีแค่แต้มเดียวจากนัดแรก อยู่ในพื้นที่ไม่ปลอดภัยของตารางเช่นกัน แถมยังยิงใครไม่ได้อีกทีมด้วย
ก็ยังคงมีเกมการแข่งขันให้เล่นกันอีกถึง 26 เกมตลอดฤดูกาล ยังมีอะไรให้ได้ติดตามกันอีกเยอะครับสำหรับบอลไทย
ไทยลีก 2 มี 3 ทีม ที่ยังไม่แพ้ใคร อยุธยา ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง เก็บไป 10 คะแนน จากผลการชนะ 3 และเสมอ 1 ส่วน ระยอง เอฟซี กับ นครปฐม ยูไนเต็ด ชนะ 1 เสมอ 3 มี 6 คะแนน อยู่กลางตาราง
ทีมที่เพิ่งเปลี่ยนหัวหน้าผู้ฝึกสอน เชียงใหม่ ยูไนเต็ด จากโค้ชชู มาเป็น น้าฉ่วย กลับมาทำผลงานได้ดี ด้วยการบุกไปเอาชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี ถึงในบ้าน เช่นเดียวกับ วานเดอร์เลย์ ที่เพิ่งรับงานหัวหน้าผู้ฝึกสอน นครศรี ยูไนเต็ด เกมแรกก็เปิดบ้านเอาชนะ เชียงใหม่ เอฟซี ได้
ถือเป็นสัญญาณที่ดีของทีมที่เปลี่ยนหัวหน้าผู้ฝึกสอนแล้วผลงานดี จะมีก็แค่ MOHAMMAD AKBAR BIN ABDUL NAWAS หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ของ อุดรธานี เอฟซี ที่นัดแรกของเขาจบลงด้วยการพ่ายแพ้
ทำให้ อุดรธานี เอฟซี จมอยู่ท้ายตารางด้วยความว่างเปล่า เมื่อรวมกับ สโมสรฟุตบอลราชประชา กระบี่ เอฟซี และ สมุทรปราการ ซิตี้ จะเป็น 4 ทีมที่ยังไม่ชนะใคร
ยังมีอีกหลายคะแนนให้ได้เก็บจนถึงวันสิ้นสุดฤดูกาล จะเป็นอย่างไรก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปครับ
มาปิดท้ายกันที่สุดสัปดาห์นี้ โปรแกรมการแข่งขันในสัปดาห์ที่ 5 จะมีใครเจอกันบ้าง
ไทยลีก 1
ศุกร์ที่ 9 กันยายน
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด – ลำพูน วอริเออร์ 19.00
เสาร์ที่ 10 กันยายน
ชลบุรี เอฟซี – พีที ประจวบ เอฟซี 18.00
นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี – หนองบัว พิชญ เอฟซี 18.30
การท่าเรือ เอฟซี – ขอนแก่น ยูไนเต็ด 19.00
อาทิตย์ที่ 11 กันยายน
ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด – ลำปาง เอฟซี 17.30
ราชบุรี เอฟซี – โปลิศ เทโร เอฟซี 18.00
สุโขทัย เอฟซี – ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 18.00
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด – เมืองทอง ยูไนเต็ด 19.00
ไทยลีก 2
ศุกร์ที่ 9 กันยายน
ตราด เอฟซี – เกษตรศาสตร์ เอฟซี 18.00
เสาร์ที่ 10 กันยายน
เชียงใหม่ เอฟซี – ระยอง เอฟซี 17.30
อุทัยธานี เอฟซี – กระบี่ เอฟซี 18.00
อุดรธานี เอฟซี – อยุธยา ยูไนเต็ด 18.30
แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด – นครศรี ยูไนเต็ด 19.00
อาทิตย์ที่ 11 กันยายน
สโมสรฟุตบอลราชประชา – เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 17.30
นครปฐม ยูไนเต็ด – แพร่ ยูไนเต็ด 18.00
สมุทรปราการ ซิตี้ – คัสตอม ยูไนเต็ด 18.30
ชัยนาท ฮอร์นบิล – สุพรรณบุรี เอฟซี 19.00
เครดิตภาพ FB Thai League , FB Thai League 2 M-150 Championship , FB Udonthani FC official , https://www.smmsport.com/thaileague/ , FB BURIRAM UNITED