ประเทศไทย เริ่มเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว ลมเย็น ๆ ช่วงเช้า ค่ำคืนก็เย็น ๆ เช่นกัน หลังผ่านช่วง “น้ำ” ที่ท่วมท้นกันทั่วประเทศ แต่บางพื้นที่ถึงขณะนี้ก็ยังต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้ำกันต่อไป
ต้องยอมรับว่าปีนี้น้ำมากจริง ทั้งน้ำท่าน้ำฝน เจิ่งนองกันไปทุกหย่อมหญ้า สารพันปัญหา อ่วมอรทัยกันไปตามกัน
ข่าวคราวล่าสุดที่เพิ่งมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ต้องพ่ายแพ้คดีที่ถูกฟ้องร้องโดย อีสาน ยูไนเต็ด ในกรณีของสิทธิ์การทำทีมที่ถูกขายสิทธิ์ ริบสิทธิ์ จนนำมาซึ่งการฟ้องร้อง และคดียาวนานเป็น 10 ปี
สุดท้าย ผลการตัดสินเป็นคุณให้กับผู้ฟ้อง และเป็นโทษให้กับผู้ถูกฟ้องอย่างสมาคมฟุตบอลฯ โดยเฉพาะประเด็นที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ที่มีมูลค่านับรวมดอกเบี้ยจนถึงปัจจุบันที่ 32 ล้านบาท
คงไม่ต้องไปย้อนว่าเรื่องมันเกิดมาตั้งแต่สมัยไหน เพราะองค์กร ไม่ว่าบริหารโดยใคร ก็ต้องรับผิดชอบกันอยู่ดี ปัญหาไปตกอยู่ที่การปฏิบัติตามคำพิพากษา
เรื่องด่วนที่สุดคือต้องชดใช้ความเสียหาย ที่คำพิพากษาระบุให้ชำระภายใน 60 วันนับจากวันที่ 27 กรกฏาคม ที่ผ่านมา
จำนวนเงินนี้ถือเป็นเงินก้อนที่ค่อนข้างใหญ่ ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า กระเบียดกระเสียน จริง ๆ เพราะลำพังงบประมาณในการจัดการฟุตบอลลีกเอง ก็ยังจ่ายได้แบบ “กะปริกะปรอย” ทะยอยจ่ายกันเป็นงวด ข้ามฤดูกาลกันเลย
ดังนั้น ทางออกทางนึงที่สมาคมฟุตบอลฯ พยายามนำมาใช้คือการเจรจาเพื่อขอแบ่งชำระ กับทาง อีสาน ยูไนเต็ด ก็ไม่รู้ว่าหนทางนี้จะไปได้ไหม เพราะมีกระแสข่าวมาว่า สมาคมกำลังจะถูกบังคับคดี
ในการบังคับคดี สำนักบังคับคดีปกครองมีแนวทางในการดำเนินการบังคับเพื่อให้เป็นไปตามคำบังคับของศาลปกครอง ตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ประกอบกับระเบียบสำนักงานศาลปกครองว่าด้วยการดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามคำบังคับของศาลปกครอง พ.ศ.2544 มีคำอธิบายแบบนี้ครับ
“กรณีที่ศาลปกครองมีคำบังคับให้ผู้ใดชำระเงินหรือส่งมอบทรัพย์สินตามคำพิพากษาหรือให้บุคคลกระทำหรือละเว้นกระทำอย่างใดเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามคำบังคับดังกล่าว ศาลปกครองอาจมีคำสั่งให้มีการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของบุคคลนั้น
ทั้งนี้ โดยให้นำบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม ในกรณีที่ศาลปกครองออกหมายบังคับคดีตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการยึด อายัดทรัพย์สิน หรือขับไล่รื้อถอน”
ตายแน่ ๆ ครับ เพราะว่ารายได้ต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในบัญชีของสมาคมฯ ทั้งค่าสิทธิประโยชน์ ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอด เงินสนับสนุนสิ่งปลูกสร้างขั้นพื้นฐาน จากฟีฟ่า เอเอฟซี และอื่น ๆ จะถูกอายัด เพื่อนำไปใช้หนี้
ทำให้ไม่สามารถใช้เงินในการดำเนินกิจกรรมฟุตบอลได้อีกต่อไป ทั้งการจัดการแข่งขัน ถ่ายทอดสด ฟุตบอลเยาวชน ฟุตบอลลีก ฟุตซอล ฟุตบอลหญิง และงบประมาณสนับสนุนจากทั้งหมดจากภาครัฐ และสหพันธ์ลูกหนังโลกและในระดับภูมิภาค ซึ่งจะทำให้สมาคมฟุตบอลฯ อาจจะมีปัญหากับฟีฟ่า เนื่องจากงบประมาณที่ทางฟีฟ่า “อุดหนุน” มา ไม่ได้ถูกนำไปใช้ในการพัฒนากีฬาฟุตบอลตามเจตนารมณ์ของฟีฟ่า
เรื่องใหญ่ เรื่องโต ยิ่งเงินอุดหนุนทีมในแต่ละลีกยังได้บ้างไม่ได้บ้าง ตัดลดไปก็มากอยู่แล้ว เหนื่อยหนักแน่นอนครับสำหรับสมาคม รวมถึงสโมสรต่าง ๆ ที่ยังคงต้องพึ่งพา “เงินอุดหนุน” จะต๋ายจะยังก็ยังไม่รู้ครับ
ยังไม่รวมถึงการคืนสิทธิ์การทำทีมกลับไปให้ อีสาน ยูไนเต็ด อีก ว่ากลับมาทำทีมแล้วจะได้เล่นตรงไหน ปัญหาคงตามมาอีกไม่น้อยทีเดียว
เอาหล่ะครับ มาดูที่ฟุตบอลลีกกันดีกว่า จบนัดตกค้าง ระหว่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่เปิดบ้านแพ้ ราชบุรี เอฟซี ทำให้ “แข้งเทพ” แพ้เป็นเกมแรกของฤดูกาล ถึงเวลานี้เหลือเพียง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงเท่านั้นที่ยังไม่แพ้ใคร
ชลบุรี เอฟซี แพ้เป็นนัดแรกในรอบ 5 นัดหลังสุด แต่ยังคงอยู่โซนหัวตารางต่อไป ในขณะที่ ราชบุรี เอฟซี ก็ขยับขึ้นมาร่วมวงกลุ่มผู้นำอีกทีม
ท้ายตาราง ยังคงจมบ๊วย และยังหาชัยชนะไม่เจอ แชมป์ไทยลีก 2 ฤดูกาลที่แล้ว ลำพูน วอริเออร์ ออกไปพ่ายให้กับ พีที ประจวบ เอฟซี ทีมในระดับเดียวกันที่โค้ชโอ่ง หมายมั่นว่าจะต้องเก็บแต้มมาให้ได้
แต่จนแล้วจนรอด ราชันโคขาว ก็ยังทำประตูเพิ่มไม่ได้ เท่ากับว่า การลงสนาม 9 นัดแรก ทำประตูไม่ได้ถึง 8 นัด สถานการณ์ไม่ดีเอาเสียเลย จากเป้าหมายที่จะอยู่รอดให้ได้ในฤดูกาลแรก ตอนนี้ต้องมาตามหาชัยชนะในนัดแรกให้ได้เสียก่อน
เพราะอย่างที่เราเคยได้ยินมา “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” เมื่อจิตใจกำลังห่อเหี่ยว แรงกายจะหยัดยืนต่อสู้นั้นคงไม่ง่ายเลย ดังนั้นเป้าหมายเร่งด่วนคือการเก็บ 3 แต้มแรกให้ได้เสียก่อน เพื่อเป็นการกอบกู้ขวัญกำลังใจ
เมื่อใจมา แรงกาย แรงฮึด ที่เรามักเรียกว่า “โมเมนตัม” ก็จะติดตามมา ยกระดับทีมให้ก้าวพ้นพื้นที่สีแดงให้ได้ หากปล่อยให้เนิ่นนานไปสถานการณ์ของทีมก็มีอันจะแย่ลงเท่านั้น
ซึ่งนัดหน้า ราชันโคขาว จะออกไปเยือนเป็นนัดที่ 7 จาก 10 นัดแรก โดยจะไปเล่นที่ พิชญสเตเดียม รังเหย้าของ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ถือเป็นนัดหนีบ๊วยก็ว่าได้ ใครพลาดจะเป็นบ๊วยเมื่อจบเกมที่ 10
เจ้าบ้านขอแค่ผลเสมอก็เพียงพอที่จะไม่ต้องเป็นอันดับสุดท้ายในตาราง ในขณะที่ทีมเยือน ไม่มีทางเลือกอื่น หากจะหนีบ๊วย ต้องชนะสถานเดียว
ส่วนประเด็นที่ทางไทยลีก ประกาศโปรแกรมการแข่งขันเดือน พฤศจิกายน ออกมาแล้ว และ ลำพูน วอริเออร์ จะได้กลับมาเล่นที่แม่กวงสเตเดียม ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการมาตรวจประเมินสนามจากทางไทยลีกแต่อย่างใด
ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกเลยครับ ในเดือนตุลาคม ที่ทางไทยลีกประกาศออกมา ก็เป็นสนามแม่กวงสเตเดียม เหมือนกัน แต่ก็มีการทำเรื่องขอเปลี่ยนแปลงสนามไปใช้สนามสมโภชน์เชียงใหม่ 700 ปี ก็คงไม่ต่างกัน
การจะได้กลับมาเล่นที่สนามเหย้าที่แท้จริง ยังคงต้องรอกันต่อไป เพราะการปรับปรุงสนามให้ได้ตามข้อกำหนดของไทยลีกเอง ยังคงไม่แล้วเสร็จ เรื่องสนาม “จะต๋ายจะยัง” ก็ยังไม่รู้เลยครับ
มาปิดท้ายที่โปรแกรมการแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้กัน
ไทยลีก 1
ศุกร์ที่ 21 ตุลาคม
ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-0 นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 19.00
เสาร์ที่ 22 ตุลาคม
หนองบัว พิชญ เอฟซี – ลำพูน วอริเออร์ 18.00
ขอนแก่น ยูไนเต็ด – บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 18.30
ลำปาง เอฟซี – โปลิศ เทโร เอฟซี 19.00
อาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม
สุโขทัย เอฟซี – การท่าเรือ เอฟซี 17.30
เมืองทอง ยูไนเต็ด – พีที ประจวบ เอฟซี 18.00
ราชบุรี เอฟซี – ชลบุรี เอฟซี 18.00
ทรู แบงค็อก – บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 19.00
ไทยลีก 2
เสาร์ที่ 22 ตุลาคม
แพร่ ยูไนเต็ด – ระยอง เอฟซี 17.30
เชียงใหม่ ยูไนเต็ด – อุดรธานี เอฟซี 18.00
ตราด เอฟซี – ชัยนาท ฮอร์นบิล 18.00
สุพรรณบุรี เอฟซี – อุทัยธานี เอฟซี 18.30
เกษตรศาสตร์ เอฟซี – สมุทรปราการ ซิตี้ 19.00
อาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม
อยุธยา ยูไนเต็ด – เชียงใหม่ เอฟซี 17.30
คัสตอม ยูไนเต็ด – กระบี่ เอฟซี 18.00
นครศรี ยูไนเต็ด – นครปฐม ยูไนเต็ด 18.30
เครดิตภาพ : FB Thai League
by TTDad