เหน็ด 1 -เรื่องของผู้ฝึกสอนในฤดูกาลนี้บอกได้เลยว่าT3 โซนเหนือมีเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่มีการขยับปรับเปลี่ยนในเรื่องของผู้ฝึกสอนคือ “งาช้างดำพิฆาต” น่าน เอฟซี ที่ก่อนเปิดฤดูกาลก็ได้มีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ของ “โค้ชเต้ย” ภานุพงษ์ ผิวอ่อน ทายาทศูนย์หน้าดาวยิงตลอดกาลของเมืองไทย “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ที่มารับหน้าที่กุมบังเหียนของสโมสรน่าน เอฟซี ด้วยดีกรีระดับ เอ ไลเซนต์ แต่แล้วเมื่อเริ่มเปิดฤดูกาลผลงานกลับไม่ตามเป้าเปิดหัวด้วยการบุกไปพ่ายให้กับ วิทยาลัยนอร์ทเทิร์นนครแม่สอด ยูไนเต็ด 0-1 ก่อนจะมาเปิดบ้านพ่ายให้กับ วัดโบสถ์ ซิตี้ 1-2 ตามด้วยการเปิดบ้านแบ่งแต้มแบบไร้สกอร์กับเชียงราย ซิตี้ 0-0 เกมนี้เองถือเป็นนัดส่งท้ายของ “โค้ชเต้ย” ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงด้วยการแต่งตั้งโค้ชรักษาการอย่าง “เก็ตโด้” ชนัตพล สิกขมณฑล ที่มาทำหน้าที่หนึ่งนัดก็เปิดบ้านแบ่งแต้มกับ แม่โจ้ ยูไนเต็ด 1-1 ก่อนที่จะเป็นการคัมแบ็คของ “โค้ชแบ็ค” อนุชา ไชยวงศ์ อดีตโค้ชเก่าของน่าน เอฟซี ที่กลับมาคุมทีมอีกครั้งพร้อมผลงานไร้พ่ายตั้งแต่เริ่มทำงานจนจบครึ่งฤดูกาลแรก
เหน็ด 2 -เรื่องของนักเตะหากจะพูดถึงลีกภูมิภาคบางครั้งบางทีอาจจะเป็นสังเวียนให้กับแข้งดาวรุ่งเยาวชนแล้วแข้งเก๋าที่เคยมีประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวในวงการค้าแข้งในบ้านเราก็มีมากมายที่หวนคืนสนามอีกครั้งซึ่งในโซนเหนือของเราก็จะมีแข้งที่อายุมากที่สุดคือ 40 ปี ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ปรัชญา กิ่งจันทร์ ผู้รักษาประตู และ โค้ชผู้รักษาประตูของ “นักรบเอ็งกอ” สี่แคว ซิตี้ ที่สำนึกรักบ้านเกิดไม่เคยย้ายจากนครสวรรค์ไปไหนตั้งแต่เริ่มต้นกับฟุตบอลโปรวิลเชียลลีก มาเป็นลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 จนมาเป็น T3 ก็จะวนๆ เวียน ๆ อยู่กับสโมสรในนครสวรรค์ไม่ว่าจะเป็น นครสวรรค์ เอฟซี ปากน้ำโพ เอ็นเอสอาร์ยู เอฟซี จนมาเป็น สี่แคว ซิตี้ ก็ยังไม่ย้ายไปไหนขนาดว่าขึ้นมาเป็นโค้ชแล้วก็ยังส่งชื่อเป็นผู้เล่นด้วย
เหน็ด 3 -สืบเนื่องมาจากเรื่องแข้งเก๋าก็จะเป็นเรื่องของสองคนในร่างเดียวนั่นก็คือเป็นโค้ชยังไม่พอก็ขอเป็นนักเตะด้วยช่วยน้องๆประคองทีมกันไปที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ “โค้ชยิ่ง” นันทวัฒน์ แทนโสภา จากค่าย “เสือดาวเชียงราย” เชียงราย ซิตี้ ที่ปฏิบัติเช่นนี้มาหลายฤดูกาลแล้วและลงเล่นเองก็บ่อยครั้ง ส่วนที่เด่นๆ อีกสโมสรหนึ่งก็คือ “ขุนพลนเรศวร” พิษณุโลก เอฟซี ที่ทั้งสองโค้ชอย่าง “บังดุล” อดุล หละโสะ และ “โค้ชทอม” กฤษณะ ต่ายวัลย์ ก็ส่งชื่อตัวเองลงเป็นผู้เล่นด้วยทั้งสองคน ส่วนอีกคนหนึ่งที่เห็นลงสนามด้วยเป็นโค้ชด้วยก็คือ “บังรุณ” นิรุณตร์ อัศวภักดี จากค่าย “อินทรีแห่งขุนเชา” โรงสีแม่ใจธนะโชติวัฒน์ พะเยา ที่ทำสองหน้าที่เหมือนกัน
นอกนั้นก็จะมี “ตั้ม” อัจฌาวุฒิ เขื่อนธนะของ “คาวบอยแม่โจ้” แม่โจ้ ยูไนเต็ด ที่เริ่มผันตัวเองไปทำหน้าที่ผู้ช่วยโค้ชและก็ส่งชื่อตัวเองเป็นผู้เล่นอยู่ อีกคนหนึ่งที่ทำหน้าที่โค้ชผู้รักษาประตูให้กับ “ชะโดพิฆาต” กงไกลาศ ยูไนเต็ด ก็คือ “โน้ต” ธีรวัฒน์ ปิ่นประดับ ที่มาช่วยเทรนน้องๆพร้อมลงเล่นเองแทบทุกนัด อีกคนหนึ่งที่กล่าวถึงไปก่อนนี้ก็คือ ปรัชญา กิ่งจันทร์ โค้ชผู้รักษาประตูและผู้รักษาประตูของ สี่แคว ซิตี้ นั่นเอง
เหน็ด 4 – เรื่องนักเตะที่ได้รับบทบาทเหมือนเป็น “แม่ทัพใหญ่” ของทีมที่ทำหน้าที่ได้โดดเด่นเป็นเหมือนเสาหลักของทีมได้อย่างดีไม่มีบกพร่องและก็มีส่วนสำคัญในการชี้ชะตาผลการแข่งขันในนัดที่ลงสนามก็มีให้เห็นหลายทีมอย่าง “บาส” อาทิตย์ สุนทรพิธ มิดฟิลด์จอมเก๋า “ขุนพลนเรศวร” พิษณุโลก เอฟซี ที่คอยบัญชาการเกมแดนกลางทั้งยิงทั้งเปิดช่วยทีมแม้บางนัดจะลงไม่เต็มเกมแต่ก็ยังถือว่าเป็นแกนหลักให้ทีม “ฟ้า” ภูฟ้า ชื่นกรมรักษ์ มิดฟิลด์มันสมอง “ดาบหักพิฆาต” อุตรดิตถ์ เอฟซี ที่ลงทุกนัด ยิงเกือบทุกนัดจนติดอันดับดาวซัลโวของโซน ขาดเขาไปถึงกับมีผลสังเกตได้จากนัดที่ไม่ได้ลงสนาม “นันท์” วิชิตนันท์ กรวยทอง จอมทัพแดนหลังของ “คาวบอยแม่โจ้” แม่โจ้ ยูไนเต็ด ที่ลงทำหน้าที่อย่างต่อเนื่องมามีบกพร่องในเกมรับ เช่นเดียวกับ อนันทสิษฐ์ บุญอินทร์ ปราการหลังกัปตันทีมจอมแกร่งของ “ชะโดพิฆาต” กงไกลาศ ยูไนเต็ด ที่ทำหน้าที่ได้ดีทั้งรุกและรับ
นอกจากนี้ก็ยังมีแข้งดาวรุ่งอย่าง เอกกมล แก้วสุริยะอร่าม จากค่าย “หนูนาจอมโหด” วัดโบสถ์ ซิตี้ ที่ผลงานกำลังดีวันดีคืนพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นจอมทัพในแดนกลางของทีมอย่างเต็มตัว นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายๆ แข้งที่น่าจับตามองที่พร้อมเป็นแกนหลักของสโมสรแม้ผลงานของสโมสรจะยังไม่เด่นแต่ผลงานส่วนตัวดูเด่นอย่าง ยา ลิน อ่อง มิดฟิลด์ของกำแพงเพชร เอฟซี ชัยภัทร หาญวชิระ ที่กำลังจะก้าวมาเป็นจอมทัพของ “เสือดาวเชียงราย” เชียงราย ซิตี้
ทางฝั่งวิงแบ็คริมเส้นที่ดูเด่นๆ ก็จะเป็น “อิน” สันติ วินิจชอบ ของ “ราชันตะวันตก” วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น นครแม่สอด ยูไนเต็ด ฝั่งซ้ายก็จะเป็น “โกดัก” ชวัลธนัญชัย ศิริชู จาก “อินทรีแห่งขุนเขา” โรงสีแม่ใจ ธนะโชติวัฒน์ พวกเขาเหล่านี่ก็เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของสโมสรเช่นกัน
และเรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องเศร้าๆที่เกิดขึ้นกับนักเตะในลีกT3โซนเหนือคงจะไม่มีเรื่องไหนจะเศร้าเท่าเรื่องการที่นักเตะจอมกตัญญูสู้ชีวิตอย่าง “เฟิร์ส” จักรพงศ์ รอดสิน แข้ง “ดาบหักพิฆาต” อุตรดิตถ์ เอฟซี ที่ครั้งหนึ่งเคยเปิดประมูลเสื้อแข่งขันของตัวเองเพื่อนำเงินมารักษามารดาที่ป่วยหนักและหลังจากนั้นไม่นานมารดาก็เสียชีวิตลง จากนั้นเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา “เจ้าเฟิร์ส” ก็ต้องมาสูญเสียบิดาผู้ให้กำเนิดไปอย่างไม่มีวันกลับ ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สร้างความสะเทือนใจและโศกเศร้าเศร้าใจเสียใจกับครอบครัวของแข้งดาวรุ่งกตัญญูผู้นี้
เครดิตภาพ : FB Nan Football Club ,SEE KHWAE City , สโมสรโรงสีแม่ใจธนะโชติวัฒน์ ,Watbot City