ฮิมต๋ายฮิมยัง : อู้ไปเล่ย เล่ย ก่อนเปิดลีก

สัปดาห์สุดท้ายก่อนไทยลีกฤดูกาล 2021-2022 จะได้ฤกษ์เปิดฉากกันเสียที หากไม่มีเหตุการณ์อะไรมาทำให้ตารางที่วางไว้ถูกเปลี่ยนแปลงไปอีก

นัดแรกของฤดูกาลก็จะเป็นการแข่งขัน ไดกิ้น ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์คัพ 2021 ซึ่งจะเป็นการพบกันระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์ ไทยลีก กับ สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ เอฟเอ คัพ และเป็นแชมป์รายการนี้มาแล้ว 2 สมัย

สังเวียนในการฟาดแข้งครั้งนี้ถูกวางไว้ที่ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ สนามใหม่เอี่ยมที่ปรับปรุงเพิ่งจะแล้วเสร็จ ในวันพุธที่ 1 กันยายน 2564 ในเวลา 18.00 น. โดยจะเป็นการแข่งขันแบบปิด ตามมาตรการการจัดการแข่งขันของไทยลีก

หลังจากนั้น สุดสัปดาห์เริ่มตั้งแต่ในวันศุกร์ที่ 3 กันยายน หกโมงเย็น ทั้งไทยลีก 1-2 และต่อเนื่องกันไปตามตารางที่ได้ถูกกำหนดไว้ตลอดเดือนกันยายน ทั้งไทยลีก 1-2 และ ไทยลีก 3 ในบางโซน

ก็อย่างที่บอกครับว่าในเดือนกันยายนมีการสลับปรับเปลี่ยนโปรแกรม เพื่อให้เดือนแรกนี้ได้ทำการแข่งขันกันไปก่อน และดูสถานการณ์ของการแพร่ระบาด อันจะนำมาซึ่งการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดโดย ศบค. ที่ทางไทยลีกจะต้องปฏิบัติตามมาตรการเหล่านั้น

ในกลุ่มสนามการแข่งขันที่สามารถจัดการแข่งขันได้ในไทยลีก 1-2 นั้น มีแค่จังหวัดแพร่เท่านั้นที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่สีแดง แพร่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มพื้นที่ควบคุม หรือสีส้ม นอกนั้นอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือสีแดง

จังหวัดควบคุม อนุญาตให้จัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 50 คน ส่วนจังหวัดควบคุมสูงสุดไม่เกิน 20 คน ดังนั้นในแต่ละจังหวัดจึงมีแนวทางในการอนุญาตให้เข้าชมการแข่งขันกีฬาได้ไม่เหมือนกัน

ก็มีข่าวคราวของการนำเสนอจากบรรดาสโมสรต่าง ๆ ไปยัง ศบค. ของแต่ละจังหวัด เพื่อให้พิจารณาอนุญาตให้มีผู้ชมเข้าชมเกมในสนาม ซึ่งก็มีข้อเสนอเช่น 25% ของความจุสนาม เป็นต้น นอกจากนั้นก็จะมีการเสนอเกี่ยวกับเงื่อนไขของผู้เข้าชมหากได้รับวัคซีนตามที่ ศบค. ให้เงื่อนไขไว้ด้วย

หากว่ามีการอนุมัติแล้ว เราอาจได้เห็นบางสนามมีผู้ชมเข้าไปชมเกมการแข่งขัน แต่ก็ยังมีเสียงคัดค้านออกมาด้วยเช่นกัน เพราะเกรงว่าหากมีการอนุญาตเช่นนั้น แล้วโชคร้ายเกิดเป็นคลัสเตอร์ “แฟนบอล” ที่เข้าไปชมเกมในสนามแล้ว จะเกิดปรากฎการณ์พักการแข่งขัน หรือเลวร้ายถึงขั้นยุติการแข่งขันไปเลยก็ได้

อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละฝ่าย ด้วยเหตุผลที่ยกมากล่าวอ้างกัน มันก็มีทั้งส่วนที่เป็นเรื่อง “จริง” และเป็นส่วนที่เป็น “ความกังวล” รวมอยู่ด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ส่วนกรณีสื่อมวลชนนั้น ไทยลีกก็ได้ออกคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน หรือ Standard Operating Procedure (SOP) เพื่อเป็นมาตรการในการจัดแข่งขันฟุตบอลในช่วงที่โควิด-19 ยังคงระบาดอยู่ โดยคู่มือนี้ได้รับการอนุมัติให้ใช้งานได้จาก ศบค. และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องแล้ว

หลัก ๆ สำหรับข้อแนะนำในส่วนต่างๆ สำหรับสื่อมวลชน ในการปฏิบัติหน้าที่ในการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพเมืองไทย ฤดูกาล 2564/2565 (2021-22) ผู้สื่อข่าว อนุญาตให้นั่งทำงานโต๊ะละ 1 คนเท่านั้น และแน่นอนต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา ห้ามรับประทานอาหารในบริเวณมีเดียทรีบูน ไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรม ณ พื้นที่ MIXED ZONE ทุกกรณี

ส่วนช่างภาพช่างภาพนิ่งและช่างภาพเคลื่อนไหว มีเก้าอี้ให้บริเวณหลังป้ายผู้สนับสนุนด้านหลังประตู ระยะห่างระหว่างกัน 2 เมตร และทำหน้าที่ ณ จุด MIXED ZONE ได้

เพิ่มเติมสำหรับสโมสรเจ้าบ้าน ควรมีบริการแจกภาพการแข่งขัน ข่าวความเคลื่อนไหว แมทช์รีพอร์ต ภาพการแถลงข่าวหลังเกม สำหรับสื่อมวลชน เพื่ออำนวยความสะดวกและลดความแออัดของผู้สื่อข่าวในการทำหน้าที่

นี่คือความเคลื่อนไหวล่าสุดทั้งฝ่ายจัดการแข่งขัน สโมสรที่เป็นเจ้าบ้าน รวมถึงสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขัน

อีกเรื่องที่เป็นปัญหาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ทำให้ตลาดซื้อขาย การขึ้นทะเบียนนักเตะกระทบไปด้วย สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้ประสานไปยัง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) เพื่อร้องขอให้มีการเปิดตลาดซื้อ-ขายนักกีฬา (Transfer Window) ครั้งที่ 1 ของฤดูกาล 2021-22 อีกครั้ง หลังจากที่ตลาดซื้อ-ขายนักกีฬา ได้ปิดชั่วคราวตามความเห็นชอบระหว่างไทยลีก และสโมสรสมาชิก

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ได้รับคำร้องของสมาคมฯ และเข้าใจสถานการณ์ จึงอนุญาตให้เปิดตลาดซื้อ-ขายนักกีฬา ครั้งที่ 1 อีกครั้ง โดยระหว่างวันที่ 21 – 27 สิงหาคม 2564 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่สโมสรสมาชิกในการดำเนินการซื้อ-ขายนักกีฬา และเพิ่มเวลาในการขึ้นทะเบียนให้มากขึ้น สำหรับรองรับสถานการณ์การจัดการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นใหม่นี้แล้ว

ทำให้ห้วงเวลาการซื้อขาย ขึ้นทะเบียนนักเตะยังคงอยู่ไปจนถึงวันที่ 27 สิงหาคมนี้ ก็อาจจะได้เห็นความเคลื่อนไหวของการเสริมทีมในช่วงสุดท้ายก่อนตลาดซื้อขายจะปิดตัวลง

มาปิดท้ายกันที่ข่าวคราวที่จะบอกว่ามันคือสิ่งที่ควรจะเป็นก็น่าจะพูดได้ เมื่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ประกาศแต่งตั้งผู้จัดการทีมชาติไทยชุดใหญ่และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ชื่อ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ

แฟนบอลชาวไทยแน่นอนว่ารู้จักและรับรู้ถึงผลงานของมาดาม ที่เป็นคนปลุกปั้นทีมชาติหญิงไทยไปลุยศึกฟุตบอลโลกหญิงมาแล้ว ไม่นับเกียรติประวัติมากมายที่สั่งสมมา

จนบางคนคาดการณ์หรือแอบหวังว่า นี่คือ “ว่าที่” นายกสมาคมฟุตบอลคนใหม่ เพราะถ้าว่ากันด้วยชื่อเสียง ผลงาน และที่สำคัญคือความทุ่มเทให้กับวงการฟุตบอลบ้านเรา คงไม่มีใครปฏิเสธว่า “มาดามแป้ง” คือชื่อแรก ๆ ที่แฟนบอลจะนึกถึง

ต้องยอมรับอย่างนึงว่า ในเวลาที่สามาคมฟุตบอลฯ มีการเปลี่ยนถ่ายการบริหารงานจากผู้บริหารชุดเก่า มาเป็นผู้บริหารชุดปัจจุบัน ที่ขับเคลื่อนการบริหารงานภายใต้สโลแกน “แฟร์” แฟนบอลต่างคาดหวังว่าจะได้เห็นการพัฒนาของฟุตบอลไทยทั้งลีกภายในประเทศ และการแข่งขันในระดับทีมชาติ

แต่เมื่อผลงานที่ออกมานั้น ยังอยู่ต่ำกว่าสิ่งที่แฟนบอลคาดหวังไปเยอะ การมองหาความหวังใหม่ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง