สัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นแมทช์เดย์สุดท้ายของเลกแรกไทยลีก 2 รวมถึงนัดตกค้างที่ยังมีอีก 2 คู่ในช่วงกลางสัปดาห์ได้ปิดฉากเลกแรกกันโดยสมบูรณ์ ฟากทีมชาติไทยในชุดชิงแชมป์รายการ AFF Suzuki Cup 2020 เปิดหัวนัดแรกด้วยสามคะแนนไปแล้ว
สัปดาห์สุดท้ายของเลกแรกในไทยลีก 2 หรือ “เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ” ตราด เอฟซี ที่คว้าแชมป์เลกแรกแบบนอนมา แถมยังเป็นแชมป์เลกแรกแบบ “ไร้พ่าย” นัดล่าสุดบุกมาเอาชนะ ลำปาง เอฟซี ถึงถิ่นเขลางค์นคร จบเลกแรกคว้าไป 43 คะแนน จากการชนะ 13 และเสมอ 4 นัด จากทั้งหมด 17 นัดในเลกแรก
อันดับสองเป็น สุโขทัย เอฟซี นัดล่าสุดบุกไปชนะทีมที่แกร่งในบ้านทีมนึง คัสตอม ลาดกระบัง ยูไนเต็ด ทำให้จบเลกแรกที่ 35 คะแนน ห่างจาก ตราด เอฟซี 8 คะแนน อยู่ในพื้นที่เลื่อนชั้นอัตโนมัติเมื่อผ่านครึ่งทาง
อันดับ 3 อุดรธานี เอฟซี ที่เปิดบ้านเอาชนะ เชียงใหม่ เอฟซี ทำให้พวกเขาอยู่ห่างจากโซนเลื่อนชั้นอัตโนมัติอยู่แค่ 1 คะแนน ในขณะที่ อันดับที่ 4 เป็น ลำพูน วอริเออร์ ที่นัดล่าสุดบุกไปเอาชนะ สโมสรฟุตบอลราชประชา ทำให้จบเลกแรกด้วยคะแนน 30 คะแนน
อันดับ 5 ลำปาง เอฟซี เมื่อจบนัดตกค้างเมื่อกลางสัปดาห์ พวกเขาเก็บแต้มเพิ่มเป็น 29 คะแนน เกาะอยู่ในโซนเพลย์ออฟอย่างเหนียวแน่น ตามมาด้วย ชัยนาท ฮอร์นบิล อันดับที่ 6 ทีมสุดท้ายในพื้นที่เพลย์ออฟ นัดล่าสุดทำได้แค่เสมอ ระยอง เอฟซี ทำให้คะแนนเพิ่มมาเป็น 28 คะแนน ทิ้ง แพร่ ยูไนเต็ด ที่ยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอ แถมยังหลุดพื้นที่ลุ้นเลื่อนชั้นเป็น 4 คะแนน
สถานการ์เช่นนี้ไม่ดีเอาเสียเลยหากยังต้องการพื้นที่เพื่อลุ้นเป็นทีมเลื่อนชั้นไปลีกสูงสุดปีหน้า การใช้งาน “กัปตันแป๊ะ” ในฐานะผู้เล่น-หัวหน้าผู้ฝึกสอน คงเป็นแค่การแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า แฟน ๆ เองก็เรียกร้องให้หาตัวจริงมาคุมทีมเสียที ก่อนที่จะกลับตัวมาเป็นทีมลุ้นเลื่อนชั้นจะช้าไปมากกว่านี้
ท้ายตารางยังคงเป็น สโมสรฟุตบอลราชนาวี ที่ยังทอดสมออยู่ที่ 6 แต้มมาอย่างเนิ่นนาน 5 นัดหลังสุดเก็บได้แค่แต้มเดียว แพ้ไปถึง 4 นัด ถ้าจะให้กาชื่อเป็นทีมแรกที่จะร่วงหล่นไปสู่ไทยลีก 3 ตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าเป็นประเทศที่การพนันถูกกฎหมาย ก็คงไม่เปิดอัตราต่อรองการตกชั้นเป็นแน่แท้
สโมสรฟุตบอลราชประชา 5 นัดหลังสุด ชนะและเสมออย่างละ 1 นัด อีก 3 นัดพ่ายแพ้ เก็บแต้มในไทยลีก 2 เลกแรกไปรวม 12 คะแนน ตามหลัง ขอนแก่น เอฟซี เพื่อนร่วมโซนตกชั้น 1 คะแนน ส่วน นครปฐม ยูไนเต็ด นัดล่าสุดเปิดบ้านเอาชนะ แพร่ ยูไนเต็ด ทำให้พวกเขาโผล่ขึ้นมาหายใจในโซนปลอดภัย ด้วยคะแนนที่มากกว่าอยู่ 2 คะแนน
สถิติที่พอจะนำมาไล่เรียงให้ได้ทราบกันเมื่อจบเลกแรก ทีมที่เสียประตูเยอะสุด ตกเป็นของ คัสตอม ลาดกระบัง ยูไนเต็ด ที่เสีย 41 ลูกในเลกแรก และ สราวุธ กองลาภ ผู้รักษาประตูของทีม ก็ได้ตำแหน่งผู้รักษาประตูที่เซฟมากสุดในลีกไปด้วยเช่นกัน คิดภาพไม่ออกครับว่าถ้าไม่เซฟเยอะประตูที่เสียจะไหลไปจบที่ไหนกัน
นักเตะที่ยิงเข้ากรอบมากที่สุด ตกเป็นของ Herlison Caion กองหน้าของ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด 25 ครั้ง แปลงไปเป็น 13 ประตู ครองดาวซัลโวร่วมกับ Thales Campos ของ อุดรธานี เอฟซี แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ Thales Campos ไม่ติด 1 ใน 5 ของ นักเตะที่ยิงเข้ากรอบ แปลว่าเขามีความคมมากกว่าในการยิงเข้ากรอบและเป็นประตู
ส่วนเรื่องสุดท้ายก็คือนักเตะที่ผ่านบอลมากที่สุด ตกเป็นของ David Cuerva ของ ระยอง เอฟซี ที่ทำไปเกือบ 800 ครั้ง แถมยังเป็นนักเตะที่ยิงเข้ากรอบมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของไทยลีก 2 อีกด้วย เรียกว่าทั้งจ่ายทั้งยิงแบบไม่อั้นจริง ๆ
หลังจากนี้ก็ถึงเวลาของการพักระหว่างเลกที่จะกินเวลาประมาณ 1 เดือน ตลาดซื้อ-ขาย ก็เปิดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม และจะมีเวลาไปจนถึง 4 มกราคม ปีหน้า ก็เริ่มเห็นการโยกย้ายทั้งในลีกสูงสุดและลีกรอง
ส่วนของไทยลีก 2 ก็เริ่มมีข่าวการเปิดตัวนักเตะที่ย้ายกันมาบ้างแล้วหลังจากทางการที่เปิดตลาด ที่น่าสนใจก็คือ สมคิด ชำนาญศิลป์ มิดฟิดล์ตัวรุกจาก “ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด” จะถูกปล่อยยืมไปร่วมทัพ สุโขทัย เอฟซี เช่นเดียวกับ สุวิทย์ ไปพรมราช แบ็คซ้ายของ “จงอางผยอง” ขอนแก่น ยูไนเต็ด ก็ถูก ลำพูน วอริเออร์ ขอยืมมาใช้งานจนจบฤดูกาล
ส่วนที่ยังคงมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด เจ้าบุญทุ่ม ไทยลีก 2 เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ที่ข่าวคราวล่าสุดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงทีมบริหาร ซึ่งก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน ภาคภูมิ กาญจนรัตกุล หรือ “บอสตุลา” ที่ทำทีม สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี เอฟซี
ซึ่งการเข้ามาทำทีม เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด นั้นทำให้จำเป็นจะต้องสละทัพ “สิงห์ทอง” ทั้งที่มีลุ้นในการขึ้นมาเล่นไทยลีก 2 ฤดูกาลหน้าจากผลงานการทำทีมของ “เดอะเน็กซ์โค้ช” พันธ์นารายณ์ พันธุ์ศิริ ที่มีข่าวว่าจะหนีบไปทำงานกับทีมใหญ่ด้วยกัน
“แพแตก” คงใช้ได้ไม่ผิดนักสำหรับทีมน้องแห่งเมืองกาญจน์ นี่แหล่ะครับ “วิถีฟุตบอล” แบบไทย ๆ ที่อาจมีเรื่องให้แปลกประหลาดใจอยู่ตลอดเวลา
มากันที่ทัพช้างศึกที่ลงทำศึกชิงแชมป์รายการ AFF Suzuki Cup 2020 ที่สิงคโปร์ นัดแรกเอาชนะ ติมอร์ เลสเต้ ไปได้ 2 – 0 แต่ภาพรวมแล้วยังไม่ค่อยจะลงตัวนักทั้งเรื่องการจัดตัวผู้เล่น และ รูปเกม แต่ก็ต้องให้เครดิต ติมอร์ เลสเต้ ที่ตั้งเกมมาสู้ได้อย่างดีผิดหูผิดตาจากเมื่อก่อนมาก ทั้งที่ 11 คนแรกที่จัดลงมา ไม่มีนักเตะโอนสัญชาติเลย
การรับแน่น และลึกทำให้การครองบอลของทีมชาติไทยมีมากกว่าถึง 4 เท่า แต่กว่าจะได้ประตูคลายความกดดันก็ต้องรอจนถึงครึ่งหลัง บนเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น แต่สุดท้ายก็ได้ 3 คะแนนตามเป้า
นัดต่อไปที่จะต้องเจอกับ เมียนมาร์ ในวันเสาร์ นักเตะที่เหลือโดยเฉพาะสองคนสุดท้ายจากญี่ปุ่น ก็ได้บินไปสมทบกับทีมที่สิงคโปร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
น่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทีมในนัดหน้า เพราะห้องเครื่องอย่าง “กัปตันเจ” ก็น่าจะได้ลงเล่นพร้อมปลอกแขนกัปตันทีมอย่างเป็นทางการ ทำให้เราน่าจะได้เห็นการทำเกมที่มี “คลาส” มากกว่าเดิม
และทางเลือกเดียวที่ “ช้างศึก” คาดหวังไว้ก็คือ 3 คะแนนเท่านั้นเพื่อรักษา “สถานะ” ของการเป็นทีมชั้นนำในภูมิภาคนี้ไว้ให้ได้
ปิดท้ายกันที่การจับสลาก รีโว่ ลีก คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้ายที่เพิ่งจับสลากันไปหมาด ๆ คู่ที่น่าสนใจของทีมในภาคเหนือ มีดังนี้
ลำพูน วอริเออร์ พบ พีที ประจวบ
เอฟซี ลำปาง เอฟซี พบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
พิษณุโลก เอฟซี พบ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด
เชียงใหม่ เอฟซี พบ ชลบุรี เอฟซี
การแข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 12 มกราคม 2565 มาดูกันว่าทีมภาคเหนือจะเหลือรอดไปในรอบต่อไปได้กี่ทีม
ฮิมต๋ายฮิมยัง by TTDad
ร่วมสนับสนุนโดย
#อีซูซุศาลาเชียงใหม่ #ChiangmaiFreshmilk #zetajersey #ดาวเรืองตราบ้าน #ทรายป่าห้า
.
#ไทยลีก #ไทยลีก2 #ไทยลีก3 #thaileague #ฟุตบอล #ข่าวฟุตบอล #ภาคเหนือ #ข่าวบอล #ข่าวบอลไทย #ข่าวฟุตบอลไทย #ป้อก๊าแข้ง #ไทยลีก1 #ฮิมสนาม #ฮิมสนามตั้งวงเล่า #บอลไทย #football #เล่าสู่กันฟัง #มังกรฟ้าลีก #Bluedragonleague #North #m150championship #thaileague2 #RevoThaiLeague