fbpx

ฮิมต๋ายฮิมยัง : โค้งสุดท้ายไทยลีก

สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์เกมทีมชาติ ที่เรารู้จักดีในชื่อ “ฟีฟ่าเดย์” กลุ่มที่ยังต้องลุ้นเข้ารอบฟุตบอลโลก ก็มีเกมรอบคัดเลือกให้ได้เตะกัน

ส่วนกลุ่มที่ไม่ต้องลุ้นอะไรก็มีเกมนัดอุ่นเครื่องให้เล่น ทีมชาติไทยของเราก็จัดอยู่ในกลุ่มหลัง เลยมีเกมกระชับมิตรในระดับทีมชาติ เกมฟุตบอลลีกสูงสุดก็เลยจำต้องหยุดไป 1 สัปดาห์

จะเหลือก็แต่ลีกรอง และลีกภูมิภาค ที่ยังคงมีคิวลงเตะ เพื่อเฟ้นหาทีมที่จะเลื่อนชั้น และทีมที่ต้องตกชั้นลงไปลีกที่ต่ำกว่า

เริ่มกันที่ลีกพระรอง ไทยลีก 2 สัปดาห์ก่อน โซนแย่งแชมป์เกิดการสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกันในระดับรองจ่าฝูง แต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จ่าฝูงที่เคยครองตำแหน่งตั้งแต่นัดที่ 5 เป็นต้นมา ก็มีอันต้องตกจากบัลลังก์หลังเกมผ่านไป 29 นัด

ตราด เอฟซี ทีมที่ผลงานในเลกแรกจบในฐานะแชมป์ 43 คะแนน จาก 17 นัดที่ลงเล่น ทิ้งอันดับ 2 ห่าง 8 คะแนน ไม่เพียงแค่นั้น เปิดเลก 2 พวกเขาก็ยังทำผลงานได้ดี ชนิดที่ถ้าบอกว่า ตราด เอฟซี จะได้เลื่อนชั้นในฐานะแชมป์ ก็คงไม่มีใครกล้าออกมาเถียง

แต่หลังจากที่สถิติไร้พ่ายของฤดูกาลถูกทำลายลง ผลงานของ ตราด เอฟซี ก็มีแต่ทรุด แล้วก็ทรุด จนหลุดจากตำแหน่งจ่าฝูง อย่างไม่น่าเชื่อ

ผลงาน 5 นัดหลัง แพ้ไปถึง 4 และที่สำคัญ 3 นัดหลังสุดพวกเขาแพ้รวด จนตอนนี้หลุดลงอยู่ในตำแหน่งที่ 3 ในตารางคะแนน ด้วยคะแนนที่เท่ากับ สุโขทัย เอฟซี แต่เป็นรองที่ลูกได้เสีย ที่น้อยกว่าถึง 9 ลูก

แต่ถ้าตัดจจบกันตอนนี้ ตราด เอฟซี ถือว่ายังได้เลื่อนชั้นอัตโนมัติ ในฐานะทีมอันดับ 2 เพราะผลงานที่เจอกันเอง ตราด เอฟซี ทำผลงานได้เหนือกว่า จากการเปิดบ้านเอาชนะไปได้ 4 – 3 และ 2 – 2 เมื่อยามไปเล่นที่ทุ่งทะเลหลวง

การคิดอันดับในระหว่างแข่งขัน ถ้าคะแนนเท่ากัน ก็จะดูที่ลูกได้เสียก่อน แต่เมื่อใดก็ตามที่จะต้องจัดอันดับเมื่อจบฤดูกาล จะเปลี่ยนไปใช้ผลงานที่เจอกัน หรือ “เฮดทูเฮด” มาเป็นอันดับแรกในการพิจารณาเมื่อคะแนนเท่ากัน

นั่นจึงเป็นบทสรุปว่า ตราด เอฟซี จะไม่มีทางจบอันดับที่ต่ำกว่า สุโขทัย เอฟซี หากคะแนนทั้งคู่เท่ากันเมื่อเกมนัดที่ 34 จบลง

ส่วน “จ่าฝูง” หน้าใหม่กลับกลายเป็น “ราชันโคขาว” ลำพูน วอริเออร์ ที่เพิ่งสัมผัสบรรยากาศบนสุดของตารางเป็นครั้งแรกของฤดูกาล นับเป็นทีมที่ 4 ในฤดูกาลนี้ที่ได้ยืนบนสุดของตาราง หลังจากแวะเวียนอยู่ในอันดับ 2 – 3 มาหลายสัปดาห์แล้ว

นัดล่าสุด “ราชันโคขาว” เปิดบ้านเอาชนะ สโมสรฟุตบอลราชนาวี ไปแบบขาดลอย เก็บ 3 คะแนนสำคัญได้ก่อนใครเพราะเกมนี้ลงเล่นในเวลา 17.00 น. วันเสาร์

จบเกมจึงขึ้นไปครองจ่าฝูง “ชั่วคราว” เพราะคู่แข่งแย่งหัวตารางอย่าง ตราด เอฟซี มีคิวลงเล่นในวันอาทิตย์ หาก “ช้างขาวเจ้าเกาะ” สามารถกำชัยได้ พวกเขาจะทวงจ่าฝูงกลับไปได้ในเวลา 24 ชั่วโมง

แต่ฟอร์มที่เริ่มลอยออกไปตามเกาะเล็ก เกาะน้อย บวกกับความกดดันที่จะต้องพยายามทวงบัลลังก์จ่าฝูงกลับไปให้ได้ ทำให้พวกเขาเกิดพลาดท่าปราชัยอีกครั้งให้กับ แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ทีมที่เล่นในบ้านได้แข็งแกร่งมาก

ในขณะที่ สุโขทัย เอฟซี จัดการระบายความอัดอั้นใส่ อุดรธานี เอฟซี 5 – 0 เป็นการยิง 5 ลูกเป็นนัดที่ 3 ใน “ทุ่งทะเลหลวง” แล้วในปีนี้ ทำให้สุโขทัย ทำแต้มจี้จ่าฝูงหน้าใหม่ 1 แต้มเท่าเดิม

ต้องยอมรับว่าชั่วโมงนี้ “ราชันโคขาว” อยู่ในช่วงที่มั่นใจสุด ๆ ไม่เพียงแค่การเลื่อนชั้นอัตโนมัติเท่านั้น แต่ถ้ามองถึงตำแหน่งแชมป์ ตอนนี้ก็คงไม่มีใครมองว่า “ไกลเกินฝัน”

ส่วน ตราด เอฟซี ก็กำลังยืนงงในดงหัวตาราง ว่า ใครเอาตำแหน่ง “จ่าฝูง” ของฉันไป

ในพื้นที่เพลย์ออฟ ชัยนาท ฮอร์นบิล ลำปาง เอฟซี และ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ต่างก็เก็บ 3 คะแนนมาได้ทั้งหมด ทำให้พวกเขายังยึดพื้นที่นี้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะ ชัยนาท ฮอร์นบิล ผลงานในช่วงหลังโดดเด่นมาก

ส่วน แพร่ ยูไนเต็ด ที่พยายามทำอันดับของตัวเองเพื่อขอเข้าพื้นที่เพลย์ออฟด้วย นัดล่าสุดที่พวกเขาโดนลูกยิงท้ายเกมของ “กัปตันกบ” ทำให้ช่องว่างเพิ่มขึ้นเป็น 4 คะแนน ก็ยังต้องเชียร์ตัวเองให้เก็บ 3 แต้มให้ได้ต่อไป และแช่งทีมที่อยู่ด้านบนให้ไร้แต้มด้วย

ท้ายตาราง ขอนแก่น เอฟซี ที่เก็บชัยชนะมาได้ 3 นัดติดต่อกัน นัดล่าสุดก็เพิ่งเปิดบ้านเอาชนะ สโมสรฟุตบอลราชประชา  ทีมบ้านใกล้เรือนคียงในโซนสีแดงด้วยกัน

ทำให้ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างจาก สโมสรฟุตบอลราชประชา 3 คะแนน และห่างโซนปลอดภัย 5 คะแนน กับอีก 5 นัดที่เหลือ อย่างน้อยก็ต้องทำผลงานส่วนตัวให้ดีก่อน แล้วก็ลุ้นให้ทีมด้านบนเก็บแต้ไม่ได้ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ โอกาสอยู่รอดของพวกเขาก็ยังพอจะมี

ส่วนทีมในโซนปลอดภัย ก็ยังถือว่าไม่ปลอดภัยนัก ใกล้กับโซนตกชั้น คัสตอม ลาดกระบัง ยูไนเต็ด ก็มีช่องว่างแค่ 2 คะแนน เชียงใหม่ เอฟซี ก็ 5 คะแนน แถมฟอร์มช่วงหลัง แพ้ติดกันมา 3 นัด เรียกว่าลุ้นกันหนักทั้งคะแนนและผลงานของทีม

แต่ก็เป็นเรื่องของตารางคะแนน สถานการณ์ช่วงท้ายก็คงต้องใส่กันเต็มที่เพื่อเป้าหมายทั้งการเลื่อนชั้นและหนีตกชั้น ไม่กี่นัดก็รู้แล้วหล่ะครับ

ไทยลีก 3 ในรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก ถือเป็นสัปดาห์ที่ 3 ของรอบนี้ กลุ่มตอนบน อุทัยธานี เอฟซี จะเป็นหนึ่งในทีมเต็งเลื่อนชั้น แต่ดูเหมือนพวกเขาจะแพ้ทาง  พิษณุโลก เอฟซี เพราะนี่คือทีมเดียวที่ยัดเยียดความปราชัยให้พวกเขาแบบไปกลับในการลงเล่นบอลลีก

การเจอกันครั้งที่ 3 ของฤดูกาลนี้ ก็ยังคงเป็นบอลแพ้ทางกันอยู่ดี “ขุนพลนเรศวร” ยังจัดการย้ำแค้น “ช้างป่าห้วยขาแข้ง” ไปได้อีกครั้งด้วยสกอร์ 2 – 0

ทำให้จบนัดที่ 3 กลุ่มตอนบน มี อุทัยธานี เอฟซี พิษณุโลก เอฟซี และ พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด มี 6 คะแนนเท่ากันในรูปแบบ “งูกินหาง” แต่ผลงานที่ อุทัยธานี เอฟซี ที่เอาชนะ พัทยา ดอลฟินส์ 4 – 1 ส่งผลให้พวกเขามีผลงานดีสุดใน 3 ทีมหากคิดในระบบมินิลีก

ส่วนอีก 3 ทีมร่วมกลุ่ม เมืองเลย ยูไนเต็ด ศรีสะเกษ เอฟซี และ ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี ก็มี 3 คะแนนเท่ากัน กลุ่มนี้ยังคงมีลุ้นกันอยู่ทุกทีม แต่เชื่อว่านัดหน้าคงได้เห็นหน้าเห็นหลังชัดกว่านี้ ก่อนที่นัดสุดท้ายจะมาถึง

ส่วนกลุ่มตอนล่าง มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ทำผลงานได้ดีเกินคาด 3 นัดผ่านไป พวกเขาเก็บชัยชนะไปได้ 2 นัด และเสมอ 1 ยังไม่แพ้ใคร นำเป็นจ่าฝูงตอนล่างเดี่ยว ๆ แบบเซอร์ไพรซ์ แน่นอนว่าโอกาสในการลุ้นเลื่อนชั้นนั้นดูจะสดใสไม่น้อย แต่ก็ต้องระวัง เพราะนัดหน้าพวกเขาจะต้องเปิดบ้านรับ สระบุรี ยูไนเต็ด ที่มีคะแนนตามหลังแค่แต้มเดียว

ถึงตอนนี้ คงเป็นที่แน่นอนแล้วว่า มหาวิทยาลัยปทุมธานี หมดลุ้นเลื่อนชั้นเป็นทีมแรกของกลุ่มนี้แล้ว ผลงานแพ้ 3 เกมรวด ส่วนทีมที่เหลือ ก็ยังได้ลุ้น และอาจจะถึงนัดสุดท้ายเลยก็เป็นได้

ปิดท้ายที่ฟุตบอลอุ่นเครื่องของทีมชาติไทยชุดใหญ่ กับ ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในรายการดูไบคัพ

ชุดใหญ่ ลงเล่น 2 นัด ชนะ เนปาล 2 – 0 และชนะ ซูรินาม 1 – 0 ทำให้หลังจากเดือนนี้ ทีมชาติไทย ที่เดิมมี 1,160.14 คะแนน อยู่ในอันดับ 112 เมื่อบวกชัยชนะ 2 เกม ในเดือนนี้ จะทำให้ไทยมีแต้มเพิ่มอีก 7.53 คะแนน (ชนะ เนปาล +3.35 ชนะ ซูรินาม +4.18) รวมเป็น 1,167.67 คะแนน มีสิทธิ์ที่จะอยู่ในอันดับ 109 ของ ฟีฟ่า แรงกิง ถ้าคิดจากเดือนกุมภาพันธ์ แต่ยังไม่ได้มองถึงคะแนนของชาติอื่นที่อันดับสูงกว่า ซึ่งต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป

ชุดยู 23 ลงแข่งที่ดูไบ นัดแรกแพ้ กาตาร์ 0 – 1 นัดที่ 2 แพ้ จีน 2 – 4 ทำให้นัดสุดท้ายต้องมาเจอกับ อิรัก และสุดท้ายก็พลาดท่าแพ้ไปจากลูกยิงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งหลัง

จบการแข่งขัน ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จบการแข่งขันในอันดับที่ 10 จากทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน 10 ทีม

ถือเป็นประสบการณ์ให้กับเจ้าหนูยู 23 ปี ที่บางคนคือการติดทีมชาติครั้งแรก ให้ได้ซึมซับบรรยากาศการเล่นในระดับนานาชาติ เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์เมื่อเจริญวัยมากกว่านี้ครับ

เครดิต : ภาพ https://www.ballthai.com/https://www.smmsport.com/thaileague/ FB ช้างศึก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า