หลังออกไปปราชัยให้กับ สุโขทัย เอฟซี 2-1 จึงทำให้ สิงห์ เชียงราย พ่าย 2 เกมติดในไทยลีก และคว้าชัยได้เพียงเกมเดียวเท่านั้น จาก 8 เกมหลังสุดทุกรายการ ขณะที่ผลงานนอกบ้านอันเคยเป็นจุดเด่น ด้วยสไตล์รับแน่นแล้วสวนกลับ แต่ล่าสุด พวกเขา ไม่ชนะนอกบ้าน 5 เกมติดเข้าไปแล้ว
เกิดอะไรขึ้นกับยอดทีมจากแดนเหนือ หลังก้าวสู่จุดสูงสุด คว้าแชมป์ไทยลีกเมื่อปี 2019 แม้ช่วงหลังจะเสียผู้เล่นตัวหลักมาแทบทุกซีซั่น แต่กระนั้น “กว่าง” ตัวนี้ ยังคงยืนระยะ รักษาอันดับ จบด้วยท็อป 5 มาโดยตลอด แต่ทว่า ซีซั่น 2023/24 อาจจะเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ที่หลุดจาก 5 อันดับดับแรกของตารางคะแนนเมื่อสิ้นฤดูกาล โดยเหลือเกมไทยลีกอีก 10 นัดสุดท้าย
ด้วยขุมกำลังผู้เล่น ที่ดูจะดรอปลงไป หากเทียบกับแต่ละปีก่อนหน้านี้ โดยในซีซั่นล่าสุด จากชุดแชมป์ไทยลีก 2019 ที่เคยอยู่ด้วยกันหลายปี พวกเขาต้องปล่อยตัวออกอีกสองราย คือ ชินภัทร ลีเอาะ (บีจี), โชติภัทร พุ่มแก้ว (ราชบุรี) หรือแม้แต่ผู้เล่นต่างชาติในแนวรุกที่อยู่กับทีมมาสามปีอย่าง ฟิลิเป้ อโมริม ตลอดจนตำนาน บิลล์ โรซิม่าร์ ซึ่งผู้เล่นใหม่ที่เสริมทัพเข้ามา ก็ยังมิอาจทดแทนได้มากนัก จึงถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ความแข็งแกร่งนั้นหายไป
ขณะที่สถานการณ์ในฟุตบอลถ้วยที่ สิงห์ เชียงราย ที่มักทำได้ดีอยู่เสมอ หลังเคยกวาดมาหมดทั้ง เอฟเอ และ ลีกคัพ (หนล่าสุดคือแชมป์ ช้าง เอฟเอ คัพ 2020/21) หรืออย่างน้อยเข้ารอบลึกๆ ทั้งสองรายการมาโดยตลอด ทั้งยังเคยไปเตะถ้วยเอเชียด้วยการคว้าแชมป์บอลถ้วยในประเทศมาแล้ว แต่ในซีซั่น 2023/24 รายการความหวังอย่าง เอฟเอ คัพ พวกเขากลับตกรอบไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่รอบ 32 ทีม หลังพลิกล็อค ออกไปพ่ายทีมใน T3 อย่าง สุรินท์ เอฟซี 2-0
ส่วน รีโว่ คัพ น่าจะเป็นเพียงความหวังเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้ ซึ่งในรอบ 16 ทีมสุดท้าย สิงห์ เชียงราย เจองานที่ไม่ง่าย เพราะถูกจับให้ไปเยือนแชมป์ T3 โซนใต้ สงขลา เอฟซี ที่ล่าสุดเพิ่งพ่ายจุดโทษ ทรู แบงค็อก ในรายการ เอฟเอ คัพ ท่ามกลางแฟนบอลที่เข้ามาชมเกมกว่า 7 พันคน และจะสร้างความกดดันให้ผู้มาเยือนอย่าง กว่างโซ่ง แน่นอน
เรียกได้ว่าในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ แฟนๆ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด อาจจะต้องลุ้นกันเหนื่อยอีกปี ด้วยการเชียร์ให้ทีมรักทำอันดับในตารางคะแนนให้ดีที่สุด ตลอดจนเข้ารอบ รีโว่ คัพ ให้ลึกที่สุด หรือคว้าแชมป์มาครองให้ได้ ก่อนจะไปว่ากันใหม่ในซีซั่นหน้า!