ฮิมต๋ายฮิมยัง : มองเป้าหมายข้างหน้า กำหนดชะตาตัวเอง

นัดที่ 5 นัดสุดท้ายของการแข่งขันในรอบ ออมสิน ลีก เนชั่นนัล แชมเปี้ยนชิพ (แชมเปี้ยนส์ลีกเดิม) รอบแบ่งกลุ่ม เพื่อหาทีมเลื่อนชั้นสู่ เอ็ม 150 แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2021 ที่ฟาดแข้งกันไปแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลการแข่งขันมีดังนี้

กลุ่มตอนบน

วันเสาร์ ที่ 6 มีนาคม 2564

ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี 7 – 0 เมืองเลย ยูไนเต็ด

ลำพูน วอริเออร์ 0 – 3 อุดร ยูไนเต็ด

ปลวกแดง ยูไนเต็ด 4 – 1 พิษณุโลก เอฟซี

กลุ่มตอนล่าง

วันอาทิตย์ ที่ 7 มีนาคม 2564

กระบี่ เอฟซี 1 – 0 ราชประชา

เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด 2 – 0 บางกอก เอฟซี

สงขลา เอฟซี  2 – 1 ม.นอร์ทกรุงเทพ

               ผลการแข่งขันเมื่อจบนัดที่ 5 นัดชี้ชะตาของทั้งสองกลุ่ม กลุ่มตอนบน จากผลการแข่งขันที่ แม่กวงสเตเดียม อุดร ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ ลำพูน วอริเออร์ ทีมแชมป์ของกลุ่มได้ถึง 3 – 0 ทำให้พวกเขาเข้าไปชิงตั๋วใบสุดท้ายกับอันดับที่ 2 ของกลุ่มตอนล่าง พร้อมหยุดสถิติชนะรวดของเจ้าบ้านไว้เพียง 4 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม เป็นการลิขิตชะตาชีวิตของตัวเองโดยแท้ แม้ว่า ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี จะระเบิดฟอร์มนัดสุดท้ายถล่ม เมืองเลย ยูไนเต็ด ไปถึง 7 ลูก แต่พวกเขาก็เข้าป้ายที่อันดับ 3 เท่านั้น ด้วยแต้มที่น้อยกว่าอันดับ 2 แค่แต้มเดียว

               ถือเป็นเงื่อนไขเดียวที่ อุดร ยูไนเต็ด ต้องการ เพราะหากพวกเขาชนะ ไม่ต้องสนใจคู่อื่นเลย แต่ด้วยสกอร์ที่เหนือความคาดหมาย จากการบุกมาชนะ แชมป์กลุ่มได้ถึง 3 – 0 ทำให้มองเห็นอะไรบางอย่าง เรื่องแรกคงเป็นที่ความมุ่งมั่นที่จะกำหนดชะตาชีวิตด้วยตนเองด้วยผลชนะ แต่อีกด้านก็คงเป็นรายชื่อของเจ้าบ้านที่นัดนี้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นที่ยังไม่ได้โอกาสลงสนาม ทำให้ผลการแข่งขันที่ออกมาดูจะเหลือเชื่อไปสักนิด ส่วนเงื่อนไขที่เอื้อสำหรับ ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี นั้นเกิดไม่ครบ เพราะนอกจากชะตาที่ต้องลิขิตเอง ยังต้องลุ้นคู่แข่งไปด้วย ทำให้พวกเขาต้องพลาดหวังไปในที่สุด คู่สุดท้าย ปลวกแดง ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ พิษณุโลก เอฟซี ไปได้ 4 – 1

เกมชี้ชะตาของกลุ่มตอนบนทั้ง 3 สนาม เป็นนัดแรกของของรอบนี้ที่มีการเปิดให้แฟนบอลเข้าไปชมเกมในสนามได้ โดยกำหนดจำนวนผู้ชมไว้ที่ 25% ของความจุสนาม ที่สนามเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา มีผู้ชม 985 คน  ในขณะที่ สนามกีฬากลาง อบจ. ลำพูน (แม่กวงสเตเดียม) มีแฟนบอลเข้าไปชม 825 คน และที่สนาม ซี.เค. สเตเดียม มีผู้ชม 255 คน ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่เกือบเต็มจำนวนที่ได้รับอนุญาต ส่วนนึงคงเป็นเพราะเกมที่มีผลต่อการเข้ารอบ อีกส่วนนึงคงเป็นความอัดอั้นในการชมเกมสด ๆ ในสนาม ที่เพิ่งได้มีโอกาสก็เกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มแล้ว

แม้ว่าในบางสนามความคาดหวังของแฟนบอลจะสูงไปบ้าง แต่ด้วยความจำเป็นบางประการ รวมถึงปัญหาทางด้านการจัดสรรตัวผู้เล่น ทำให้เราได้เห็นรายชื่อผู้เล่นที่ไม่คุ้นตาลงทำการแข่งขันในนัดนี้ นั่นก็เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละทีมที่จะบริหารจัดการ โดยเฉพาะการมองไปถึงเป้าหมายหลัก ส่วนองค์ประกอบบางเรื่องอาจต้องยอมสละ เพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า

สรุปในกลุ่มตอนบนจึงมี ลำพูน วอริเออร์ อันดับที่ 1 เก็บไป 12 แต้ม เลื่อนชั้นไปก่อนหน้านี้แล้ว อันดับที่ 2 เป็น อุดร ยูไนเต็ด ที่มี 10 แต้ม อันดับที่ 3 ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี 9 แต้ม อันดับ 4 ปลวกแดง ยูไนเต็ด 7 แต้ม อันดับ 5 พิษณุโลก เอฟซี 4 แต้ม และอันดับสุดท้ายเป็น เมืองเลย ยูไนเต็ด ที่มีแค่ 1 แต้ม และเป็นทีมเดียวที่ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลย ในทั้ง 2 กลุ่ม

ส่วนในกลุ่มตอนล่าง นัดนี้เป็นการชี้ชัดว่าทีมใดจะเลื่อนชั้นในฐานะแชมป์กลุ่ม และทีมใดที่จะต้องไปไล่ล่าตั๋วใบสุดท้ายกับตัวแทนของกลุ่มตอนบน ระหว่าง ราชประชา ทีมอันดับ 1 ในตารางคะแนน และ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด อันดับ 2 ซึ่งผลการแข่งขัน เป็น เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ที่พลิกสถานการณ์ เอาชนะ บางกอก เอฟซี 2 – 0  ต่อหน้าแฟนบอล 1,286 คนที่เข้ามาชมเกมในสนามกีฬากลางกาญจนบุรี (กลีบบัว) ส่งให้พวกเขาเบียด ราชประชา ที่ออกไปพลาดท่าให้ กระบี่ เอฟซี เจ้าบ้านเฉือนเอาชนะไปได้ 1 – 0 ท่ามกลางกองเชียร์เจ้าบ้านที่เข้ามาเชียร์ในสนาม 300 ชีวิต ทำให้ต้องไปชิงตั๋วใบสุดท้ายกับ อุดร ยูไนเต็ด จากกลุ่มตอนบน

ก่อนการแข่งขัน ราชประชา ทีมนำที่ว่ากันว่านัดนี้ที่ต้องไปเยือน กระบี่ เอฟซี ที่หมดลุ้นไปแล้วสำหรับฤดูกาลนี้ น่าจะเป็นงานไม่ยากนักที่จะทำให้พวกเขาได้เลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติ โดยที่เงื่อนไขคือการมาฉก 3 แต้มแต่สุดท้าย กระบี่ เอฟซี กลับกลายเป็นทีมที่หักอกพวกเขาในบั้นปลาย ทำให้ต้องมาชี้ชะตาในฐานะทีมอันดับที่ 2 แทน เมื่อมีโอกาสลิขิตชีวิตตัวเองแล้ว กลับทำไม่ได้ ก็คงโทษใครไม่ได้ นอกจากตัวเอง

ส่วน สงขลา เอฟซี ก็ไม่ทำให้แฟนบอลที่เข้ามาเชียร์ในสนามติณสูลานนท์ทั้ง 2,139 คนผิดหวัง เมื่อเปิดบ้านเอาชนะ ม.นอร์ทกรุงเทพ 2 – 1  ถึงเป็นเกมที่ไม่มีผลอะไร แต่การเล่นต่อหน้าแฟนบอลเจ้าถิ่น แถมยังสามารถเก็บ 3 แต้มได้ก็ถือเป็นรางวัลชิ้นใหญ่ให้กับแฟนบอลก่อนที่ฤดูกาลนี้จะปิดลงไป

สรุปผลการแข่งขันของกลุ่มตอนล่าง อันดับที่ 1 เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด เก็บไป 11 คะแนน เป็นทีมเดียวในทั้ง 2 กลุ่มที่ไม่แพ้ใคร ตามมาด้วย ราชประชา อันดับที่ 2 เก็บไป 10 คะแนน อันดับ 3 กระบี่ เอฟซี 7 คะแนน อันดับ 4 สงขลา เอฟซี 5 คะแนน อันดับที่ 5 ม.นอร์ทกรุงเทพ 4 คะแนน และอันดับสุดท้าย บางกอก เอฟซี ที่มี 4 คะแนน เช่นเดียวกัน

สรุปทีมที่ได้เลื่อนชั้นไปสู่ลีกพระรองในฤดูกาล 2021 ลำพูน วอริเออร์ แชมป์กลุ่มตอนบน เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด แชมป์กลุ่มตอนล่าง ทั้งคู่ถือเป็นการเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 เป็นครั้งแรกของสโมสร ส่วน อุดร ยูไนเต็ด และ ราชประชา ยังคงต้องแย่งชิงโควต้าสุดท้ายในการเป็นทีมที่ 3 ที่จะได้เลื่อนชั้น

หลังจากจบรอบแบ่งกลุ่มแล้ว 4 สนามยังคงต้องใช้ต่อสำหรับเกมตัดสินว่าใครกันจะเป็นสุดยอดทีมของ ออมสิน ลีก เนชั่นนัล แชมเปี้ยนชิพ โดยที่ สนามกีฬากลาง อบจ. ลำพูน (แม่กวงสเตเดียม) ของ ลำพูน วอริเออร์ และ สนามกีฬากลาง จ.กาญจนบุรี (กลีบบัว) ของเมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด จะเป็นสังเวียนในการชี้ชะตาแชมป์ประจำฤดูกาล ทั้งสองสนามได้ผ่านการอนุมัติให้มีผู้เข้าชมการแข่งขันได้ 50% ของความจุในสนามแล้ว แน่นอนว่าทั้งสองนัด แฟนบอลจะเข้ามาชมเกมเต็มตามจำนวนที่ได้รับอนุญาตเป็นที่แน่นอน

โดยการแข่งขันจะมีขึ้น 2 นัด นัดแรกจะเป็นลำพูน วอริเออร์ จะเป็นเจ้าบ้านก่อน ส่วนนัดที่ 2 จะกลับไปเล่นที่บ้านของ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ทั้งคู่เองก็หมายมั่นที่จะเป็นแชมป์ให้ได้ เพราะถือเป็นครั้งแรกของทั้งคู่ที่ได้เข้าชิง

ส่วน สนามกีฬามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตอุดรธานี ของ อุดร ยูไนเต็ด และ บีจี สเตเดียม ของ ราชประชา จะเป็นสังเวียนชี้ชะตาว่าใครจะเป็นทีมสุดท้ายที่จะก้าวไปสู่ลีกพระรองในฤดูกาล 2021 โดยนัดแรกจะเล่นกันที่บ้านของ อุดร ยูไนเต็ด หลังจากนั้นสัปดาห์หน้าก็จะกลับไปเล่นกันที่บ้านของราชประชา

โปรแกรมการแข่งขันนัดชิงอันดับ 3 นัดแรก

วันเสาร์ ที่ 13 มีนาคม 2564

16.00 น. อุดร ยูไนเต็ด – ราชประชา

โปรแกรมการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ นัดแรก

วันอาทิตย์ ที่ 14 มีนาคม 2564

18.00 น. ลำพูน วอริเออร์ – เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด

ขอบคุณภาพ : FB rajpracha / FB MuangkanUnited / FB

ฮิมต๋ายฮิมยัง by TTDad

Warut