Categories: ฮิมต๋าย ฮิมยัง

ฮิมต๋ายฮิมยัง : ทัศนะคู่แข่ง บ่งบอกอะไร

นัดแรกของการแข่งขันในรอบ ออมสิน ลีก เนชั่นนัล แชมเปี้ยนชิพ (แชมเปี้ยนส์ลีกเดิม) เพื่อหาทีมเลื่อนชั้นสู่ เอ็ม 150 แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2021 ที่ฟาดแข้งกันไปแล้วครบทั้ง 2 กลุ่ม ทั้งตอนบนและตอนล่าง ขอย้อนสรุปผลการแข่งขัน กันอีกสักครั้ง

กลุ่มตอนบน

วันเสาร์ ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564

ปลวกแดง ยูไนเต็ด 1 – 2 ลำพูน วอริเออร์

พิษณุโลก เอฟซี 0 – 0 เมืองเลย ยูไนเต็ด

อุดร ยูไนเต็ด 3 – 1 ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี

กลุ่มตอนล่าง

วันอาทิตย์ ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564

เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด 3 – 0 สงขลา เอฟซี

บางกอก เอฟซี 3 – 6 ราชประชา

ม.นอร์ทกรุงเทพ 1 – 2 กระบี่ เอฟซี

จากผลการแข่งขัน ก็ต้องยอมรับว่าผลการแข่งขันมีทั้งเป็นไปตามที่คาดและผิดคาด ก็นั่นแหล่ะครับ เกมฟุตบอล ผลการแข่งขันออกได้ไม่ว่าจะชนะ เสมอ แพ้ ประเภทหักปากกาเซียนก็มีให้เห็นกันชินตาอยู่แล้ว ขออนุญาตลงในรายละเอียดกันสักเล็กน้อยกับเกมการแข่งขันที่ผ่านมาในนัดแรก

กลุ่มตอนบน ถ้าดูตามการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ผลการแข่งขันก็เป็นไปตามที่คาดกันทุกคู่ ที่จะมาว่ากันก็จะเป็นคู่ ปลวกแดง ยูไนเต็ด แชมป์โซนตะวันออก เปิดบ้านรับ แชมป์โซนเหนือ ลำพูน วอริเออร์

ปลวกแดง ยูไนเต็ด เป็นทีมที่แกร่งในบ้านก็จริง แต่เมื่อมาเจอคู่แข่งที่เล่นเกมนอกบ้านได้ดี ผลครึ่งแรกจึงถูกผู้มาเยือนออกนำไปก่อน 2 ลูก แม้ในครึ่งหลังจะเป็นฝั่งเจ้าบ้านที่กลับลงมาในสภาพเลือดเข้าตา ถ้าไม่บุกเอาประตูคืน ก็หมายถึงยอมศิโรราบต่อความปราชัย ในขณะที่ทีมเยือนคล้ายพอใจใน 2 ประตูในครึ่งแรก กลับลงมาตั้งรับตลอด 45 นาทีหลัง

เกมครึ่งหลังจึงเป็นใจให้เจ้าบ้านบุกพับสนามใส่ผู้มาเยือน ประหนึ่งระบายความโกรธแค้นที่โดนกระทำในครึ่งแรก โดยเฉพาะท้ายเกม ที่ได้ประตูตีตื้น ผู้มาเยือนเสียท่าจาก ใบเหลือง-แดง แถมมีโอกาสอย่างน้อยจะแบ่งแต้มจากการได้จุดโทษ แต่ก็ชวดคะแนนเพราะ “ติ่ง ชิลลาเวิร์ต” ไม่อนุญาตให้บอลเข้าไปตุงในตาข่าย ถึงพ่ายแพ้แต่ชนะใจแฟนเจ้าบ้านที่มุงกันอยู่หน้าจอ

หลังจบเกม วิมล จันทร์คำ กุนซือปลวกแดง ยูไนเต็ด ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อกีฬา SPSTH ไว้ดังนี้ “ถือว่าเสียหายเยอะ ก่อนเกมทุกคนมองลำพูนเป็นเต็ง แต่พอลงสนาม เราสู้ได้ เราดีกว่าโดยเฉพาะในครึ่งหลัง เราเสียประตูเร็วไป ง่ายไป พอมีโอกาสก็ทำไม่ได้อีก เสียดายมาก ไม่ได้ดูถูกเขานะบางทีมเจอในลีกยังยากกว่า พอผลออกมาแบบนี้มันก็รู้สึกช้ำ ช่วงท้ายเราได้จุดโทษแถมเขาเหลือ 10 คนแต่ทำไม่ได้ ถ้ายิงเข้าไม่ใช่แค่เสมอ เรามีลุ้นชนะเลย ผลออกมาก็ต้องยอมรับเราไม่คมเอง ก็ต้องไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป”

ในขณะที่พงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก ปธ.ลำพูน วอริเออร์ ก็ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ SPSTH เช่นกัน ใจความว่า “แน่นอนว่าเราพอใจ 3 แต้มที่เราได้มา แต่ในครึ่งหลังก็ต้องชื่นชมว่า โค้ชลิง (วิมล จันทร์คำ) แก้เกมมาได้ดีมาก ทำให้รูปเกมเราอาจอึดอัดหน่อย ซึ่งทีมเราก็เจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยๆ ครึ่งแรกเรานำแล้วกลับกลายเป็นว่าครึ่งหลังไปเน้นรับกันมากเกินไป ตรงนี้ทีมสตาฟฟ์ก็ได้เห็นข้อบกพร่อง และจะนำไปปรับแก้กัน”

จากบทสัมภาษณ์หลังเกม โดยเฉพาะทัศนะที่พูดถึง “คู่แข่ง” พอจะจับประเด็นได้อยู่อย่างนึงก็คือ การมองคู่ต่อสู้ที่เพิ่งได้ประมือกันไป ย้อนไปดูคำพูดของกุนซือเจ้าบ้านก่อน สิ่งที่โค้ชลิงมอง ลำพูน วอริเออร์ ก่อนเกมเป็นทีมเต็ง เล่นแล้วคือทีมธรรมดาทีมนึง บางทีอาจจะเล่นง่ายกว่าทีมที่พวกเขาเคยเจอด้วยซ้ำ

ถ้าเป็นทีมที่ถูกพูดถึงบางทีก็ต้องฉุกคิดว่า “เอ้าทำไมทีมเราเป็นงั้นไป” การเปลี่ยนเกมในครึ่งหลังคือคำตอบได้ชัดว่า เขามองเกม เขาแก้เกม กลับลงมาครึ่งหลังแล้วรูปเกมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ส่วนนึงต้องยกเครดิตให้การแก้เกมของเจ้าบ้าน อีกมุมต้องโยนคำถามกลับไปที่ทีมเยือนว่า พอใจที่จะลงไปรับเต็มตัวเช่นนั้นหรือ?

แม้แต่ประธานสโมสรทีมเยือนเองก็ยังยอมรับว่า “อึดอัด” กับการที่ต้อง “ตั้งรับมากเกินไป” และยังคงไม่ชิน แม้จะเจอเหตุการณ์เช่นนี้ “บ่อย ๆ” และชมการแก้เกมของเจ้าบ้านที่ทำได้ดี พร้อมกับโยนโจทย์กลับไปให้ทีมโค้ชไปแก้ไขจุดบกพร่องที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

มุมมองจากแฟนบอลทีมเยือนเองก็คิดไม่ได้ต่างกัน นำแล้วรับเท่ากับชักนำคู่แข่งให้เข้ามากระหน่ำทวงประตูคืน ยังดีที่ทวงไปได้แค่ลุกเดียว เรียกว่า เสียวจนวินาทีสุดท้าย ถามใคร ๆ ก็บอก แบบนี้ไม่เอาอีกแล้วนะ

มาดูในกลุ่มตอนล่างกันบ้าง ทั้ง 3 คู่มีผลการแข่งขันที่ค่อนข้างพลิกโผกันพอสมควร ไม่นับเมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ที่เก็บคลีนชีตได้เหนือ สงขลา เอฟซี โดยเฉพาะ บางกอก เอฟซี เปิดบ้านรับ ราชประชา คู่นี้ยิงกันไป 9 ลูก สูงสุดในทุกสนามในเกมแรก เป็นฝั่งทีมเยือนที่บุกมาเอาชนะ 6 – 3 ตุนเก็บสามคะแนนในได้อย่างดุดัน ขออนุญาตเขียนถึงเกมคู่นี้ในกลุ่มตอนล่าง

เจ้าบ้านออกนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 6 ก่อนที่ทีมเยือนจะมาตีเสมอ แล้วพลิกขึ้นนำ แต่เจ้าบ้านก็กลับมาตีเสมอ จบ 45 นาทีแรกที่ 2 – 2 ส่วนในครึ่งหลัง เจ้าบ้านมาได้ประตูในช่วงท้ายเกมเพิ่มอีก 1 ลูก แต่ทีมเยือนกดเพิ่มไปอีก 4 ลูก ใน 45 นาทีหลัง จบเกมเจ้าบ้านจึงพ่ายไปถึง 3 – 6 ผู้ทำประตูในเกมนี้ของทั้งคู่ เจ้าบ้าน เชาวสิทธิ์ ทรัพย์สกุลผล ส่วนทีมเยือน รณชัย รังสิโย ทำไปคนละ 2 ลูกให้กับทีม

ถือเป็นแฟร์เกมอีกคู่นึง ตลอดทั้งเกมผลัดกันรุกรับอย่างสนุก แต่ก็อย่างที่เรารับทราบสกอร์ไปแล้ว 9 ลูกที่เกิดขึ้นสร้างความบันเทิงให้กับแฟนบอลที่เฝ้ารอดูกันผ่านการถ่ายทอดสดทางเพจของทั้งสองสโมสร เพราะทางสมาคมยังไม่มีการอนุญาตให้เข้าไปชมในสนามกันแต่อย่างใด

หลังเกม กฤษฎี ตั้งจิตถนอมสิน ปธ.บางกอก เอฟซี ให้สัมภาษณ์กับสื่อ SPSTH ใจความว่า “เราทราบสไตล์เขาดีว่ามาเร่งในชั่วโมงสุดท้าย แต่ว่าด้วยผู้เล่นเขามีประสบการณ์กว่าก็เป็นตัวแปร ก็เป็นบทเรียนที่ดีในการพัฒนาทีมเรา ผู้เล่นเราก็ประสบการณ์ไม่มาก การมาถึงรอบ ชปล. มันก็มาเจอกลุ่มผู้เล่นที่มีคุณภาพแตกต่าง แต่ในข้อดีคือเราได้เรียนรู้ และนำมาปรับใช้กับทีมเราให้ดีขึ้น”

ส่วนกุนซือของทีมเยือน จักรกริช บุญคำ ก็กล่าวกับ SPSTH หลังเกมการแข่งขันว่า “เกมแรกมันยากเสมอ เราเสียประตูก่อน แต่พอเราเสียประตูแล้วเราตอบสนองได้ดี แต่เราก็ยังมีข้อผิดพลาดในเกมรับที่ต้องไปแก้ไขกัน ซึ่งเราทำได้ดีในเรื่องการคุมเกม และครองบอล ในครึ่งหลัง”

เห็นได้ชัดว่าเจ้าบ้านรู้ถึงกิตติศัพท์ของทีมเยือนที่มักจะเร่งในช่วงผ่าน 60 นาทีแรกของเกมไปแล้ว ก็ตามที่ถูกคาดไว้ ทีมเยือนได้ประตูเมื่อนผ่าน 60 นาทีแรกไปแล้วถึง 3 ลูก ถามว่าเจ้าบ้านรับรู้ก่อนหน้านี้ไหม จากบทสัมภาษณ์คือรู้แล้ว ก็พยายามเตรียมการรับมือไว้ล่วงหน้า แต่ก็เพราะส่วนนึงจาก “ประสบการณ์” ของนักเตะทีมเยือน ที่ฝั่งเจ้าบ้านมองว่า “เหนือกว่า” น่าเป็นปัจจัยให้สามแต้มในเกมนี้ไปอยู่ในมือของทีมเยือน

นี่คือมุมมองของคู่แข่ง ส่งผ่านไปถึงคู่ต่อสู้ เมื่อรับรู้มุมมองคู่แข่ง แล้วย้อนมามองที่ตัวเอง คำพูดที่เราเคยได้ยินมาเนิ่นนาน “รู้เขา รู้เรา” หากเราต้องออกไปรบ คู่ต่อสู้เป็นใคร เขามีอะไร ส่วนเราจะเอาอะไรไปต่อสู้ จะวางแผนยังไง “รบร้อยครั้ง ก็พอใจในผลร้อยครั้ง” คำว่า “ชนะร้อยครั้ง” ยากครับจะเกิดขึ้น ดูเสียงแฟนบอลนั่นแหล่ะครับ “ไม่เป็นไร เอาใหม่” “เล่นดีแล้ว แพ้ไม่เป็นไร” นี่แหล่ะ “รบไม่ชนะแต่พอใจ”

ก็ต้องมาตามกันว่า นัดที่ 2 แต่ละทีมจะมีพัฒนาการอย่างไร เพราะนับถอยหลังก็เหลืออีกทีมละ 4 นัดก่อนจะรู้ผลว่า 4 ทีมที่จะได้ไปต่อเพื่อหาทีมเลื่อนชั้น 3 ทีมจะมีใครกันบ้าง