การแข่งขันในรอบ ลีก เนชั่นนัล แชมเปี้ยนชิพ (แชมเปี้ยนส์ลีกเดิม) นัดชิงอันดับ 3 เพื่อหาทีมสุดท้ายเพื่อเลื่อนชั้นสู่ เอ็ม 150 แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2021 และนัดชิงชนะเลิศ ที่ฟาดแข้งกันไปแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลการแข่งขันมีดังนี้
ผลการแข่งขันนัดชิงอันดับ 3 นัดแรก
วันเสาร์ ที่ 13 มีนาคม 2564
อุดร ยูไนเต็ด 1 – 0 ราชประชา
ผลการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ นัดแรก
วันอาทิตย์ ที่ 14 มีนาคม 2564
ลำพูน วอริเออร์ 2 – 0 เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด
จากผลการแข่งขันของทั้ง 2 นัด เป็นเจ้าบ้านทั้ง 2 สนามที่เป็นฝ่ายได้เฮไปก่อนในนัดแรก โดยการแข่งขันที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตอุดรธานี บ้านของ อุดร ยูไนเต็ด เจ้าบ้านได้ประตูในนาทีที่ 86 จาก ยาร์เดล คาปิสตราโน เป็นประตูโทนในนัดนี้ กุมความได้เปรียบเหนือ ราชประชา ที่จะได้กลับไปชี้ชะตาในบ้านตัวเองในสุดสัปดาห์นี้
อุดร ยูไนเต็ด สามารถกำหนดชะตาชีวิตให้กับตัวเองเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกันจากการช่วงชิงอันดับ 2 ของกลุ่มตอนบน ตามมาด้วยการยื่นขาข้างนึงในการแข่งขันลีกพระรองในฤดูกาลหน้าใน 7 วันให้หลัง ส่วนราชประชาเอง หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ก่อนเพิ่งพลาดท่าให้ กระบี่ เอฟซี จนต้องยกการเลื่อนชั้นอัตโนมัติให้กับ เมืองกาญจน์ยูไนเต็ด การเดินทางมาเยือนเมืองอุดรในสัปดาห์ถัดมา พวกเขาก็ต้องมาพลาดท่าด้วยสกอร์เดิม ถือว่าเป็นการเยือน 2 นัดที่ไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย
แต่บอล 2 นัด อะไรก็ยังเกิดขึ้นได้ รวมถึงการตามหลังคู่แข่งแค่เพียง 1 ลูก โอกาสของพวกเขาก็ใช่ว่าจะไม่มีที่จะพลิกสถานการณ์กลับมากระชากตั๋วเลื่อนชั้นจากมือ อุดร ยูไนเต็ด
เมื่อมองไปที่สถิติการลงเล่นในบ้านที่ บีจี สเตเดียม 2 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาเก็บชัยชนะได้ทั้ง 2 นัด แถมยังเป็นการเอาชนะแบบคลีนชีตอีกด้วย ส่วน อุดร ยูไนเต็ด ในรอบแบ่งกลุ่ม การออกไปเยือน 2 นัดของพวกเขา ก็เก็บชัยชนะรวดทั้ง 2 นัดเช่นกัน
การตัดสินว่าใครจะได้ตั๋วใบนี้ไปครองจึงยังคงคาดคะเนอะไรตอนนี้ไม่ได้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนนั้น เจ้าบ้านไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่ เพื่อทวงประตูที่เสียเปรียบในนัดแรกกลับมาให้ได้เป็นอย่างน้อยก่อน ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะหมดโอกาสที่จะเลื่อนชั้นในฤดูกาลหน้าทันที
ส่วนนัดชิงชนะเลิศ ลำพูน วอริเออร์ เจ้าบ้าน ได้ เจา เปาโล ซาเลส ที่เหมาคนเดียวทั้ง 2 ลูก ช่วยให้เจ้าบ้านกุมความได้เปรียบในนัดแรกไปได้ก่อน แถมมีประตูตุนอยู่ก่อน 2 ลูกก่อนที่จะไปเยือนสนามกลีบบัวในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้
จะว่าไปแล้วสถานการณ์ของ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด เองก็ใช่ว่าจะแย่ไปเสียทีเดียว แม้ว่าช่องว่าง 2 ลูกจะดูมากไปสักหน่อย แต่อะไรก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะปัจจัยที่อาจมีผลต่อการแข่งขันที่เจ้าบ้านอาจจะได้เปรียบ
ในการเป็นเจ้าบ้านของ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด จะทำการแข่งขันกันในเวลา 15.30 น. จนมีคำเปรียบเปรยไว้ว่า เป็นนรกของทีมเยือน เพราะการลงเล่นในบ้านของ ลำพูน วอริเออร์ ปกติแล้วจะเล่นกันที่หกโมงเย็น ท่ามกลางแสงไฟจากสปอร์ตไลท์ ต่างจากนัดนี้ที่จะต้องเล่นท่ามกลางแสงแดดของประเทศไทยในเดือนมีนาคมในช่วงบ่ายสามครึ่ง
เรื่องนี้อาจเป็นเงื่อนไขที่ส่งให้เจ้าบ้านได้เปรียบผู้มาเยือน แต่ เมื่อรู้เขา ก็ต้องเตรียมเรา ลำพูน วอริเออร์ เองก็ทำการบ้านด้วยการจำลองแบบฝึกในช่วงเดียวกับเวลาการแข่งขันจริง เพื่อให้ผู้เล่นได้ซึมซับความรู้สึกที่จะต้องลงเล่นท่ามกลางความร้อนระอุของแดดประเทศไทย
เรียกว่าแม้จะมี 2 ลูกในมือ ก็ไม่ประมาท แถมการให้สัมภาษณ์ล่าสุดของหัวหน้าผู้ฝึกสอน “ราชันโคขาว” ลำพูน วอร์ริเออร์ “โค้ชปอนด์” จงสฤกษ์ วุฒิช่วย ที่ประกาศกร้าวจะไปเล่นด้วยยุทธวิธีและเตรียมจิตวิทยาเพื่อกระตุ้นนักเตะให้เอาชนะให้ได้เท่านั้น ซึ่งถ้าบอกมาแบบนี้ ลำพูน วอริเออร์ คงไม่ไปตั้งรับเป็นแน่นอน
ปัจจัยหลักที่น่าจะมีความสำคัญต่อรูปเกมของทั้ง 2 สนามก็คือ “อะเวย์โกล์” หรือการทำประตูนอกบ้านยามเมื่อลงเล่นเป็นทีมเยือน อุดร ยูไนเต็ด และ ลำพูน วอริเออร์ อยู่ในสถานการณ์เดียวกันคือกำชัยชนะโดยที่ไม่เสียอะเวย์โกล์
ในการเล่นนัดที่ 2 หากพวกเขาสามารถช่วงชิงความได้เปรียบด้วยการทำอะเวย์โกล์ได้ แถมถ้าสามารถทำได้ก่อนที่เจ้าบ้านจะทำประตูได้ อะเวย์โกล์ จะเป็นอาวุธที่มีพลานุภาพสร้างความกดดันให้กับเจ้าบ้านอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อพวกเขาจะต้องทำงานหนักมากขึ้น เพื่อให้ผลต่างประตูมากกว่าที่เคยเสียไปในนัดแรก เพื่อลบผลที่เกิดจากอะเวย์โกล์ให้ได้
“โค้ชส่วย” สุกฤษฎิ์ โยธี เฮดโค้ช “จิ้งจอกอีสาน” อุดร ยูไนเต็ด กล่าวว่า แม้นัดแรกจะมีชัยเหนือ “ตราชฎา” ราชประชา 1 – 0 แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ แต่ก็ยังใจชื้น เนื่องจาก อุดร ยูไนเต็ด สามารถเสมอได้ทุกสกอร์หรือแม้แต่แพ้ 1 – 0 ยังได้ลุ้นถึงการต่อเวลายิงจุดโทษ นี่จะเป็นการโยนความกดดันไปให้เจ้าบ้านที่ต้องเร่งเอาประตู และที่สำคัญพวกเขาจะเสียประตูไม่ได้เด็ดขาด
อะเวย์โกล์ จึงเป็นอะไรที่ทั้ง ราชประชา และ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด จะต้องไม่ยอมให้เกิดขึ้นเป็นเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเจอทั้งความกดดัน และยังจะต้องใช้พลังเพิ่มมากกว่าปกติอีกหลายเท่าตัว
โดยการแข่งขันในนัดที่ 2 ที่สนามบีจี สเตเดียม หากในเวลา 90 นาที เจ้าบ้านราชประชา สามารถเอาชนะ อุดร ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 1 – 0 ก็จะต้องมีการต่อเวลาพิเศษจนถึงการดวลจุดโทษ เพื่อหาผู้ชนะที่แท้จริงที่จะเป็นเจ้าของตั๋วเลื่อนชั้นใบสุดท้าย แต่ถ้าหากเป็นสกอร์อื่น การแข่งขันก็จะจบลงในเวลา 90 นาที
ราชประชา หากพวกเขาจะเป็นทีมในลีกพระรองฤดูกาลหน้า การเอาชนะด้วยผลต่าง 2 ประตูขึ้นไปเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาต้องการ หากเสมอ หรือ ถึงขั้นแพ้ อุดร ยูไนเต็ด น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์จะได้เลื่อนขั้นไปทำศึกดาร์บี้แมทช์เมืองอุดร แต่ข้อแม้ก็คือ อุดร เอฟซี จะต้องรอดพ้นการตกชั้นไปให้ได้ด้วย
เช่นเดียวกับที่สนามกลีบบัว เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ถ้าพวกเขาจบ 90 นาทีด้วยผล 2 – 0 ก็จะต้องต่อเวลาหรือยิงจุดโทษตัดสิน สกอร์อื่นนอกเหนือจากนี้เราจะได้รับทราบผลของแชมป์ T3 ประจำปีนี้ทันทีในเวลา 90 นาทีของเกม
สกอร์ที่พวกเขาต้องการคือชัยชนะเหนือ ลำพูน วอริเออร์ ด้วยผลต่างประตูตั้งแต่ 3 ลูกขึ้นไป ไม่ว่าจะจบที่เท่าไหร่ก็ตาม การเฉือนเอาชนะ เสมอ หรือแพ้ พวกเขาจะจบที่รองแชมป์ พร้อมยื่นตำแหน่งแชมเปี้ยนส์ของไทยลีก 3 ให้กับ ลำพูน วอริเออร์ ทันที
ก็ต้องมาลุ้นกันว่า โฉมหน้าของทีมที่ 3 ที่จะได้เลื่อนชั้นจะเป็นทีมไหนในวันเสาร์ ส่วนแชมป์หน้าใหม่ วันอาทิตย์นี้ก็จะได้รับทราบกันแล้วครับ
โปรแกรมการแข่งขันนัดชิงอันดับ 3 นัดที่สอง
วันอาทิตย์ ที่ 21 มีนาคม 2564
17.00 น. ราชประชา – อุดร ยูไนเต็ด
โปรแกรมการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ นัดที่สอง
วันอาทิตย์ ที่ 21 มีนาคม 2564
15.30 น. เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด – ลำพูน วอริเออร์
เครดิตภาพ : LamphunWarriors / rajpracha / สโมสรฟุตบอล-อุดรยูไนเต็ด /
ฮิมต๋าย ฮิมยัง by TTDad