ฮิมต๋ายฮิมยัง : เลกสองเดินหน้าเต็มสูบ

สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของเดือนแรกปี 2566 จะว่าไปแล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว มีเหตุการณ์มากมายในวงการฟุตบอลที่ต้องให้พูดถึง

มากันที่ฟุตบอลลีกในประเทศกันก่อนครับ ไทยลีก 1 เริ่มกลับมาเตะกันต่อในเลกที่สอง หลังจากการพักเลกอย่างยาวนาน ผมว่านี่คือการพักที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ฟุตบอลลีกบ้านเรามีสภาพเป็นลีกอาชีพแบบเต็มตัว

ทั้งจากช่วงฟุตบอลโลก ลากยาวต่อมาจนถึงฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ดีที่ไม่มีพวกซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ มาแข่งขันกันช่วงนี้อีก ไม่อย่างนั้นคงได้พักกันยาวนานมากกว่านี้

ก่อนจะจบเลกที่ 1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์เลกแรกมาครองได้อย่างสบายเท้า เป็นการคว้าแชมป์เลกแบบไร้พ่าย เปิดเลกสองมาก็ยังคงเก็บ 3 แต้มต่อได้อีกนัด ยืดสถิติออกไปได้อีก 1 สัปดาห์

มีสถิติที่น่าสนใจ ศุภชัย ใจเด็ด กดเพิ่มไปอีก 1 ลูกทำให้ตั้งแต่นัดแรกเขาสะสมประตูในลีกไปแล้ว 11 ลูก เทียบเท่า แฮมิลตัน ซัวเรส จากการท่าเรือ เอฟซี ทั้งคู่ตามหลัง ดานิโล่ อัลเวส ของฉลามชล 1 ลูก

ส่วนสถิติแอสซิสต์ของลีก อันดับ 1 เป็น ศุภนัฏฐ์ 6 ลูก ตามมาด้วย ธีราทร และ นฤบดินทร์ คนละ 5 ลูก เรียกว่าท็อปของลีกก็มากองอยู่ที่ทีมจ่าฝูงเกือบหมด

บทสัมภาษณ์ไม่ว่าจะหัวหน้าผู้ฝึกสอน นักเตะ และผู้บริหาร ในทุก ๆ ครั้งจะประสานเสียงไปในทิศทางเดียวกันว่า เป้าหมายคือกวาดเรียบทุกรายการ

สิ่งนี้เป็นดั่งอุปทานหมู่ ที่ทุกคนที่มีส่วนร่วมกับทีมมีความรู้สึกนึกคิดไปในทิศทางเดียวกัน ส่งผลให้ทุกนัดที่พวกเขาลงเล่น จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเก็บชัยชนะ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของทีม

ภาพก็ค่อนข้างชัดจากการเสริมตัวผู้เล่นในเลกสองอย่าง ฮาริส วูชคิช ดิออน คูลส์ และ ฟิลิป โรกิช ถ้าว่ากันตามตำแหน่งที่มีอยู่เดิมแล้ว เพื่อนร่วมลีกยังเอาชนะได้ยากอยู่แล้ว แต่นี่คือการเสริมเพื่อปิดทางใครก็ตามที่คิดจะมาปล้นแชมป์จากพวกเขาในทุกรายการในประเทศ

แต่เชื่อว่า การเสริมน่าจะปูพื้นฐานไปยังถ้วยเอเชียในฤดูกาลหน้าที่จะต้องเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มร่วมกับทีมแถวหน้าในระดับทวีป

ส่วนอันดับ 2 ก็ยังคงโชว์ฟอร์มได้ดี ฉลามชล แม้ว่าตลาดรอบสองพวกเขาจะไม่ได้เสริมอะไรที่หวือหวามากมาย หนักไปทางยืมตัวและดันเด็กจากชุดอคาเดมี่ขึ้นมา

แต่นักเตะอคาเดมี่อันเลื่องชื่อของ ฉลามชล นี่แหล่ะครับ ที่ผลิดอกออกผลให้เราได้เห็นกันมาอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นระบบอันแข็งแกร่ง ที่คอยปลุกปั้นเด็กเยาวชนให้ขึ้นมาโลดแล่นในเวทีลูกหนังของประเทศ

ส่วนท้ายตารางยังคงเป็น ลำปาง เอฟซี ทีมน้อง กับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ทีมพี่ ที่ยังคงเปิดเลกสองด้วยผลงานที่ไม่สู้ดีนัก ทำให้จบนัดที่ 16 ยังคงจมอยู่ท้ายตารางกันทั้งคู่ ซึ่งจะว่าไปแล้ว ทั้งสองทีมเสียตัวผู้เล่นจะว่าตัวหลักก็ได้ ออกไปในช่วงเปิดตลาดเลกสอง

ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าจะยืนหยัดในเวทีลีกสูงสุดกันไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่

ส่วนลีกพระรอง ไทยลีก 2 ทีมหัวแถวนัดกันสะดุดทั้งคู่ จ่าฝูง นครศรี ยูไนเต็ด ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับ เชียงใหม่ เอฟซี ในวันเสาร์ ส่วน สุพรรณบุรี เอฟซี ก็ต้องมาพังพาบให้กับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์

นพบุรี ศรีนครพิงค์ สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสังเวียนเผด็จศึกผู้มาเยือนที่เป็นถึงจ่าฝูงและรองจ่าฝูง ของลีกพระรอง ถือเป็นผลงานอันสุดยอดของทีมจากเวียงพิงค์ในสุดสัปดาห์ที่แล้ว

ถึงแม้จะสะดุด แต่ทั้งคู่ยังคงครองตำแหน่งในฐานะที่จะได้เลื่อนชั้นอัตโนมัติต่อไป ส่วนทีมที่ไล่ตามมาก็ขยับชิดเข้ามา ลดช่องว่างเพื่อหวังพลิกสถานการณ์คว้าตั๋วเลื่อนชั้นอัตโนมัติให้ได้

อย่าลืมครับว่า จ่าฝูงในรอบหลายฤดูกาลที่ผ่านมา พอเข้าเลกสองหลายทีมฟอร์มหลุด ฟหลายทีมปล่อยตั๋วเลื่อนชั้นหลุดมือไปก็หลายทีม ดังนั้นหากหวังจะไปเป็นน้องใหม่ลีกสูงสุด ต้องรักษาฟอร์มการเล่นให้คงเส้นคงวาเอาไว้ให้ได้

ท้ายตาราง อุดรธานี เอฟซี เป็นทีมสุดท้ายที่ทำคะแนนเป็นเลข 2 หลักได้แล้ว คัสตอม ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ไปแจก 3 แต้มให้ถึงอุดรธานี เป็นชัยชนะในรอบหลายเกมที่ผ่านมาของยักษ์แสด

สถานการณ์ของทีมยังคงย่ำแย่ต่อเนื่องมาตั้งแต่เลกสองของฤดูกาลที่แล้ว ปลายฤดูกาลจนถึงก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ ก็แก้ไขปัญหาค้างเงินนักเตะ จนได้สิทธิ์ลงเล่นในฤดูกาลนี้ และจนแล้วจนรอด ปัญหาเรื่องการบริหารก็กลับมาเล่นงานสโมสรนี้อีกครั้ง

ผลงานในสนามก็ตกลงเรื่อย ๆ อย่างน่าใจหาย จนความเป็นไปได้ที่ทีมนี้จะอยู่รอดเมื่อฤดูกาลนี้จบลง ลดน้อยลงทุกที

ส่วน 2 ทีมตัวแทนจากแดนใต้ ทั้ง แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด และ กระบี่ เอฟซี ก็ยังคงอยู่ในพื้นที่สีแดงต่อไป ต้องยอมรับว่าผลงานในช่วงหลังของทั้งคู่ยังคงมีแต่ทรงกับทรุด

แต่ก็ยังคงพอใจชื้นอยู่บ้างที่ช่องว่างคะแนนที่พวกเขาจะอยู่รอดนั้นไม่ได้ห่างมากมาย แถมผลงานของทีมที่เหนือจากพวกเขาก็อยู่ใน ทรงอย่างแบด ไม่ต่างกันเลย

หนทางยังอีกยาวไกลครับ กว่าจะหมดฤดูกาล ยังคงต้องต่อสู้กันต่อไป ทั้งเลื่อนชั้นและหนีตกชั้น สุดท้ายจะมีทีมที่สมหวังและผิดหวัง เพราะโควต้ามันจำกัดครับ

มาปิดท้ายที่ทีม “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” ในรายการ รีโว่ ลีกคัพ ปลาทูคะนอง สมุทรสงคราม เอฟซี จากไทยลีก 3 ที่ล้ม ลำปาง เอฟซี จากไทยลีก 1 กลายเป็นทีมจากลีกล่างเพียงทีมเดียวที่จะได้ลงแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ส่วนทีมที่เหลือเป็น เชียงใหม่ เอฟซี ตัวแทนหนึ่งเดียวจากไทยลีก 2 ส่วนไทยลีก 1 พาเหรดเข้ามาเล่น 6 ทีมด้วยกัน แชมป์เก่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ราชบุรี เอฟซี บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พีที ประจวบ เอฟซี ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ ลำพูน วอริเออร์

รอบต่อไปจับสลากวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้ รอบนี้จะพิเศษตรงที่ว่า จะไม่มีการให้ทีมในลีกต่ำกว่าเป็นเจ้าบ้าน ดังนั้นทุกทีมในรอบนี้จะได้โอกาสเป็นเจ้าบ้าน ไม่ว่าจะเจอทีมในระดับที่ต่ำกว่าก็ตาม