ฮิมต๋ายฮิมยัง :  คู่ชิงฟุตบอลโลก

สองสามวันที่ผ่านมาเริ่มรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่ลดลง แบบนี้ค่อยเหมาะสมจะเป็นหน้าหนาวหน่อย

เห็นนักท่องเที่ยวที่เริ่มเดินทางมาเยือนเมืองเหนือ ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถตู้ รถบัส ทำให้ความคุ้นชินของบรรยากาศการท่องเที่ยวได้กลับมาอีกครั้งหลังจากหยุดไปร่วม ๆ 3 ปี

เมื่อการท่องเที่ยวขยับ เม็ดเงินก็ขยับตาม มีธุรกิจมากมายทั้งชาวบ้าน ห้างร้าน นายทุน ได้รับปรธดยชน์จากเม็ดเงินที่ถูกเคลื่อนย้ายมาให้จากคนต่างถิ่น

ยิ่งช่วงเดือนสุดท้ายของปี เชียงใหม่เต็มไปด้วยกิจกรรมมากมาย ทั้งแบบระยะสั้น ๆ ไปจนถึงงานที่กินเวลาเกิน 10 วันอยู่หลาบหลายงาน

รอยยิ้มของผู้ประกอบการก็ได้เห็นกันบ้างแล้ว มาตรการช่วยเหลือใด ๆ ว่าไปแล้วคงเทียบไม่ได้กับสถานการณ์ที่เข้าสู่ปกติ เพราะกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยมีมานั้นก็เป็นกลไกปกติที่ทำให้เศรษฐกิจมีการเคลื่อนไหวอยู่แล้ว

ตามต่อเรื่องที่สมาคมฟุตบอลฯ พ่ายแพ้คดีให้กับ อีสาน ยูไนเต็ด และการชำระเงินชดเชยตามคำพิพากษาที่มีการแบ่งจ่าย ข่าวคราวล่าสุด ทาง อีสาน ยูไนเต็ด ก็ออกมาแจงแล้วว่า เงินที่ได้รับนั้น ครบตามจำนวนที่ศาลพิพากษาแล้ว

เป็นอันว่าเปราะแรกของการดำเนินการตามคำพิพากษา ถูกดำเนินการแล้ว จะเหลือก็แต่เรื่องสำคัญคือการ “คืนสิทธิ์” การทำทีม ซึ่งเรื่องนี้อย่างที่เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นเรื่องใหญ่ และมีผลกระทบต่อหลายส่วน ในหลาย ๆ สถานะ

คงไม่อาจไปคาดเดาว่า “การคืนสิทธิ์” จะออกมาในรูปแบบใดกันแน่ แต่เชื่ออย่างหนึ่งว่า การตัดสินใจครั้งนี้ “ยากเย็น” เหลือเกิน ไม่เช่นนั้นคงได้เห็นการดำเนินการไปแล้วหลังคำพิพากษา

ฟุตบอลโลกเมื่อมาถึง ณ วันนี้ เราได้คู่ชิงกันเรียบร้อยแล้ว ระหว่าง ทรู และ กล่อง IPTV เอ้ย จริง ๆ ต้องเป็น อาเจนติน่า กับ แชมป์เก่า ฝรั่งเศส

โดยคู่นี้จะชิงกันในคืนวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันชาติของกาตาร์ เจ้าภาพในการแข่งขันในครั้งนี้

ดังนั้นหลังจากคู่นี้จบลง การฉลองแชมป์ ควบการฉลองวันชาติของเจ้าภาพ คาดการณ์ได้เลยว่า ท้องฟ้าเหนือสนามการแข่งขันคู่ชิงชนะเลิศ จะเต็มไปด้วย พลุ ดอกไม้ไฟ จนไม่เหลือที่ว่างให้อากาศให้เคลื่อนไหวกันแน่นอน

การชิงชัยของคู่นี้แม้จะเหนือความคาดหมายเล็กน้อย เพราะทีมที่ถูกคาดหมายว่าจะลงเล่นนัดสุดท้ายเป็นคู่ชิงชนะเลิศ เต็ง 1 บราซิล มีอันต้องตกรอบไปก่อนหน้านี้

การดวลกันระหว่าง อาเจนติน่า กับ ฝรั่งเศส จึงดูเหมาะสมมากที่สุดจากฟอร์มการเล่นที่เริ่มมาตั้งแต่นัดแรกของทัวร์นาเม้นต์

สิ่งหนึ่งที่บางสื่อพยายามนำมาเผยแพร่ คือภาพวาดที่แสดงให้เห็นว่านักเตะอาวุโสในทีม ได้ลงเล่นมาตั้งแต่นักเตะในทีมหลายคนยังอยู่ในวัยเด็ก และนักเตะอาวุโสในทีมเหล่านั้นคือขวัญใจ หรือ “ไอดอล” ที่พวกเดินตาม จนได้มาเล่นเคียงข้างกันในวันนี้

จะเรียกนักเตะอาวุโสเหล่านี้ว่า “ผู้ยิ่งใหญ่” ของทีมก็คงไม่เกินเลยนัก เพราะพวกเขาเป็นแบบนั้นจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ลีโอเนล เมสซี่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และอีกคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ ลูก้า โมดริช

โดยเฉพาะคนหลังที่เกือบได้เขียนนิยายให้ตัวเองสมบูรณ์แบบ ก่อนที่เขาจะเลิกราจากเวทีฟุตบอลโลก ด้วยอายุอานามที่ล่วงเลยมาจนถึง 37 ปีแล้ว

ก่อนหน้านี้เขาเองบอกว่ายังจะเล่นให้กับทีมชาติโครเอเชียต่อไป แต่ฝันร้ายจากการพ่าย อาเจนติน่า ถึง 0 – 3 ทำให้ความลังเลในใจของเขาอาจเกิดขึ้น หากจะยังให้เขาอยู่โยงกับทีมชาติต่อไป การคว้าอันดับ 3 คงเป็นทางเลือกเดียวที่จะทำให้โครเอเชีย เชื่อมั่นว่าใจเขาจะยังไม่เปลี่ยน

ส่วนคู่ชิงที่ 3 ถือเป็น ม้ามืดในการแข่งขันในครั้งนี้ โมร็อกโก อันดับ 19 จาก 32 ทีมที่คาดว่าจะได้แชมป์โลก จึงไม่แปลกที่ทัวร์นาเม้นต์นี้ พวกเขาคือม้ามืดโดยแท้ ที่สำคัญคือ การปราบบรรดาทีมเต็งที่อยู่เหนือพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น เบลเยียม สเปน หรือ โปรตุเกส

และอีกเรื่องสำคัญคือ นัดแรกของทั้งคู่ในฟุตบอลโลกหนนี้คือการเจอกันเองในกลุ่ม F ซึ่งยังไม่มีใครเหนือกว่าใครในเกมนั้น

เกมนัดชิงที่ 3 นี้จึงเปรียบเสมือนการรีแมทช์ เพื่อหาผู้ชนะ และกลับบ้านพร้อมอันดับ 3 ในการชิงแชมป์โลก นัดนี้ก็คงใส่กันแหลกทิ้งทวนก่อนอำลาดินแดนตะวันออกกลาง

ย้อนกลับไปที่คู่ชิงอีกสักรอบ ความสำเร็จในโลกฟุตบอลมากมายที่ชายชื่อ ลีโอเนล เมสซี่ ได้รับมา แต่เมื่อล่วงถึงวัย 35 ปี เชื่อว่าฟุตบอลโลกครั้งนี้ น่าจะเป็นหนสุดท้ายที่ชายผู้นี้จะเข้าร่วมกับทีมชาติอาเจนติน่า

ความสำเร็จส่วนตัวทั้งในนามสโมสร ทั้งในนามทีมชาติ คงเหลือแต่การเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกนี่แหล่ะครับ ที่ตัวเขาเองยังขาดไป การเข้าชิงในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดที่จะเติมเต็มเกียรติประวัติความยิ่งใหญ่ของตัวเขา ก่อนอาชีพค้าแข้งจะจบลง

เมื่อปีที่แล้ว เขาพาทีมชาติอาเจนติน่า คว้าแชมป์โคปาอเมริกา 2021 ทำให้ครั้งนี้เขาเองคงทุ่มสุดตัวเพื่อให้ได้ตำแหน่งแชมป์โลกมาครองให้จงได้

คู่ชิงในครั้งนี้เป็นอดีตแชมป์เก่า ที่ยังสามารถรักษาฟอร์มการเล่นในระดับสูงมาได้ต่อเนื่อง การเข้าชิงเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 5 ครั้งหลังที่พวกเขาได้เข้าชิง

เป็นคู่ชิงที่สมน้ำสมเนื้อกันทีเดียว ไม่ต่างอะไรกับทรู และ กล่อง IPTV ที่จนถึง ณ เวลานี้ที่ผมกำลังพิมพ์ต้นฉบับ

การที่จะให้กล่อง IPTV ถ่ายทอดสดได้ ยังคงทำไม่ได้ในทางปฏิบัติ แม้ว่าเจ้าของลิขสิทธิ์ “ทรู” ที่อนุญาตให้ทำได้ แต่เงื่อนตายที่ทรูผูกไว้ ด้วยการยื่นขอคุ้มครองผ่านศาลทรัพย์สินทางปัญญา ยังไม่ได้ถูกคลายปมออก

หากในระหว่างการคุ้มครอง มีกล่อง IPTV เจ้าใดเอาสัญญาณไปถ่ายทอดสดผ่านกล่องตัวเอง ก็เท่ากับว่า “ละเมิด” คำสั่งศาล ซึ่งก็มีบทลงโทษตามมา แน่นอนว่าใครหล่ะจะกล้า

สภาพ “จอดำ” จึงต้องมีกันต่อไป จนกว่าทุกอย่างจะคลายล็อคทั้งหมด ซึ่งนัดชิงที่ 3 ในวันเสาร์ และนัดชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ ถือเป็นวันหยุดราชการ คงไม่เดานะครับ ว่าจะมีใครไปยื่นคำร้องให้ศาลยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในวันหยุดราชการ

คู่ชิงคู่นี้ จึงถือเป็นคู่ชิงที่ไม่น่าติดตาม เพราะเห็นชัดว่าใครได้เปรียบในเกมนี้ แม้จะมีเสียงก่นด่าค่อนประเทศจากบรรดาผู้ใช้กล่อง IPTV ก็ตามที

เนี่ยแหล่ะครับ หากทุกอย่างในโลกนี้ ขับเคลื่อนด้วยธุรกิจ เราก็จะเจอสภาพการแย่งชิงความได้เปรียบทางธุรกิจ ที่ไม่ว่าฝ่ายไหนจะได้ประโยชฯ ก็จะมีผู้ใช้บริการส่วนนึงเสียประโยชน์เสมอนั่นแหล่ะครับ

by TTDad