ไทยลีก 1 ปีนี้จนถึงตอนนี้ยังคงไม่คึกคักเท่าที่ควร ปัจจัยคงน่าจะมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด โดยเฉพาะการนำผู้เล่นต่างชาติเข้ามา น่าจะเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวัง ใช้ระยะเวลาค่อนข้างมาก เพราะปกติลำพังแค่การเดินเรื่องวีซ่า ใบอนุญาตทำงาน ก็กินเวลาไปนานพอดู ถ้าบวกระยะเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดจากเชื้อแล้ว คงมีคิวเปิดตัวกันใกล้เปิดลีกกันโน่นเลยครับ
สำหรับโควต้าต่างชาติของไทยลีก 2021 – 2022 ยังไม่เปลี่ยนแปลงจากฤดูกาลก่อน ในการส่งรายชื่อหรือการขึ้นทะเบียนนักเตะ ต่างชาติ 3 + เอเชีย 1 + อาเซียนไม่จำกัด ส่วนในวันแข่งคือ 3 + 1 + 3 คือลงสนามได้ ต่างชาติ 3 คน เอเชีย 1 คน และ อาเซียน 3 คน
น้องใหม่ไทยลีกทีมสุดท้าย ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่เพิ่งกรำศึกเพลย์ออฟผ่านไป จึงต้องเร่งคว้านักเตะเพื่อต่อสู้ในลีกสูงสุดเพราะออกตัวช้ากว่าทีมอื่น จัดการเสริมตัวผู้เล่นโดยดึง เอเลฟ วิเอร่า ซานโตส ปราการหลังจาก สุพรรณบุรี เอฟซี และ อิบสัน เมโล่ กองหน้าตัวของ สุโขทัย เอฟซี ส่วนอีกรายเป็น จักรกริช พาละพล เจ้าของฉายา “เจ้าชายระนอง” เพราะเจ้าตัวคือเด็กปั้นจากทีมอะคาเดมี่ ของสโมสรแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด
มาที่น้องใหม่ไทยลีกอีกทีม เชียงใหม่ ยูไนเต็ด พวกเขามีข่าวโยงไปที่นักเตะเมืองทอง ยูไนเต็ด แต่สุดท้ายกลายเป็น ยานนิค โบลี่ ที่ยืมมาจาก การท่าเรือ เอฟซี ที่ได้ขึ้นเหนือมากินข้าวซอยแทน แถมยังไม่ต้องแบกความกดดันเท่ากับตอนที่อยู่คลองเตย ถือเป็นเซอร์ไพร์ส ที่เรียกว่าหักมุมสำหรับต่างชาติรายแรกของทีมที่เสริมในปีนี้ ส่วนนักเตะไทยเป็น ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกูล จาก สุโขทัย เอฟซี
แชมป์ไทยลีก 2 ที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาในลีกสูงสุด หนองบัว พิชญ เอฟซี การเปลี่ยนมือของคนทำทีมจาก น้าฉ่วย ไปเป็น โค้ชวัง คงต้องมาทบทวนแผนการหาตัวผู้เล่นกันใหม่ ส่วนที่น่าจะชัวร์แล้วคงเป็น สถาพร แดงสี นัดเตะที่กำลังเก็บตัวอยู่ในแคมป์ทีมชาติ จากตราด เอฟซี รวมถึง อมานี อกีนัลโด อาเซียนจากฟิลิปปินส์ ส่วนนักเตะต่างชาติมีข่าวไปที่นักเตะบราซิล 2 ราย ซึ่งรายละเอียดยังไม่ชัดเจนในตอนนี้
ส่วนไทยลีกรุ่นพี่ที่เปิดตัวนักเตะใหม่ไปแล้วมีด้วยกันหลายทีม “ฉลามชล” ของ “โค้ชเตี้ย” เปิดตัวล่าสุดเป็น อันโตนิโอ แสนใจรักษ์ กองหลังดาวรุ่งลูกครึ่งไทย-สวีเดนจาก เยอร์การ์เด้นส์ สวีเดน ก่อนหน้านี้ผู้เล่นต่างชาติที่ถูกเสริมแล้วอย่าง เดนนิส มูริลโล่ จิดี้ คานยุค ยู บยองซู และ เรนาโต เคลิช ที่ยืมมาจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดกับอีก 1 นักเตะไทย ทัตพิชา อักษรศรี ผู้รักษาประตูจาก อยุธยา ยูไนเต็ด ถือเป็นทีมที่มองอนาคตตามปรัชญาการให้โอกาสเด็กของ “โค้ชเตี้ย”
“สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ทีมที่กำลังจะได้ลงเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร โดยมีทีมร่วมกลุ่มคือ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ จากจีน คิตฉี จาก ฮ่องกง และอีกทีมจากรอบเพลย์ออฟ พวกเขาจำเป็นต้องหานักเตะเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม เบื้องต้นตกลงสัญญาไว้กับ บาร์รอส ทาร์เดลลี่ กองหน้าชาวบราซิล จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในแบบยืมตัว แต่ตอนนี้ บาร์รอส ยังมีปัญหาเรื่องของเอกสารการเดินทางของภรรยา ทำให้ยังไม่สามารถเดินทางมาประเทศไทยได้ และยังพักอยู่ที่ประเทศบราซิล ก็ต้องลุ้นกันต่อว่าจะได้กลับมาเมื่อไหร่ และรวมระยะเวลาที่ต้องกักตัว จะได้ทันใช้ใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือไม่ด้วย แต่ถ้าโอกาสในการใช้งานมีน้อยลง อาจต้องเล็งหาตัวแทนเพื่อใช้งานแทน
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แชมป์จากฤดูกาลที่แล้ว แน่นอนพวกเขามีศึกนอกประเทศเพิ่มเติม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เช่นเดียวกับ “สิงห์เจ้าท่า” ทีมร่วมกลุ่มก็คือ อุลซาน ฮุนได จากเกาหลีใต้ เวียตเทล จากเวียดนาม และอีกทีมจากรอบเพลย์ออฟ การเสริมตัวผู้เล่นค่อนข้างมาก ต่างชาติที่เพิ่มเข้ามา เรียว มัตสึมูระ จาก เชียงใหม่ เอฟซี เควิน อินเกรโซ จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เหลือเป็นนักเตะไทย ชิดชนก ไชยเสนสุรินธร ยอดรักษ์ นาเมืองรักษ์ ฉัตรมงคล ทองคีรี เออร์เนสโต ภูมิภา เพื่อเสริมความแกร่งให้กับผู้เล่นที่แข็งแกร่งอยู่แล้วจากฤดูกาลก่อน
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตามสไตล์ที่มักมองผู้เล่นจากนอกประเทศเป็นหลัก ช่วงนี้จึงยังไม่มีข่าวคราวอะไรมากนัก คงต้องรอใกล้ ๆ น่าจะมีความเคลื่อนไหวมากกว่านี้
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี อีก 1 ทีมของไทยที่ถูกส่งชื่อเข้าร่วม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบแบ่งกลุ่ม มีเพื่อนร่วมกลุ่มอย่าง โปฮัง สตีลเลอร์ส จาก เกาหลีใต้ นาโงยา แกรมปัส จาก ญี่ปุ่น และ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม จาก มาเลเซีย การเสริมตัวผู้เล่นจึงต้องมุ่งเน้นไปที่ทั้งศึกในและนอกประเทศ ถึงตอนนี้พวกเขายังได้มาแค่ กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ จาก สุพรรณบุรี เอฟซี สรรวัชญ์ เดชมิตร จาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ ธนาเสฏฐ์ สุจริต จาก ชลบุรี เอฟซี ซึ่งคงต้องมองหาขุมกำลังมากกว่านี้หากจะมองถึงรอบต่อไปในศึกสโมสรเอเชีย
ส่วนทีมอื่นๆ ก็มีดีลที่ชิงพื้นที่ข่าวได้อยู่เหมือนกัน โปลิศ เทโร ที่เสริมไปหลายคน ธีรเทพ วิโนทัย เอวานโดร เปาลิสตา จาง ยุน อา จาก อินชอน ยูไนเต็ด ริชาร์ด ซูคุตา ปาซู จาก โซล อี-แลนด์ เพื่ออุดช่องว่างการเสียตัวผู้เล่นในหลายตำแหน่ง
ส่วนที่ยังไม่มีการขยับเสริมตัวผู้เล่นใหม่เข้ามาก็มี สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และ สุพรรณบุรี เอฟซี โดยเฉพาะรายหลังยังไม่มีทิศทางชัดเจนของทีมที่ชัดเจนเท่าที่ควร แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทีมสุดท้ายที่รอดพ้นจากการตกชั้น แต่การเดินไปต่อข้างหน้ายังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นอย่างไร ตรงกันข้าม นักเตะหลักหลายคนก็ย้ายออกไปจากทีมอีกด้วย
ถ้าว่ากันตามตรง การเสริมทีมในฤดูกาลนี้ นับถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่เป็น “บิ๊กดีล” เมื่อเทียบกับช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า เมื่อฤดูกาลใหม่เริ่มขึ้น ใครกันจะมีขุมกำลังที่โดดเด่นมากพอที่จะไปแย่งชิงตำแหน่งแชมป์ หรือทีมไหนจะเสริมแค่ประคองตัวให้อยู่รอดในลีกสูงสุด
ครั้งหน้ามากันต่อที่ลีกพระรองกันบ้าง ที่รับประกันได้ว่ามี “ว๊าว” มี “บิ๊กดีล” มาให้ติดตามกันอย่างแน่นอน
ฮิมต๋ายฮิมยัง by TTDad