น้ำท่วม น้ำหลาก น้ำเยอะ เราคงได้ยินกันบ่อยมากขึ้นในห้วงเดือนกันยายน ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนตุลาคม ในเกือบทุก ๆ ปี
ปีนี้เป็นปีที่เรียกว่า “ลานีญา” หรือปีที่มีปริมาณฝนมากกว่าค่าปกติ จนทำให้หลายพื้นที่ในตอนนี้ได้รับผลกระทบจาก “น้ำ” ไปตาม ๆ กัน
ฟุตบอลลีกของไทยก็ยังคงอยู่ในช่วงต้นของการแข่งขันที่แข่งมาครบ 1 เดือนแล้ว ผลการแข่งขันเป็นอย่างไรบ้าง ตารางคะแนนในแต่ละลีก แต่ละโซน เป็นอย่างไรกันบ้าง มาดูกันครับ
เริ่มต้นที่ผลการแข่งขันกันก่อน ไทยลีก 1 หรือ “ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก” แข่งกันไปเป็นนัดที่ 4 มีผลการแข่งขันที่น่าสนใจ เมื่อ “จ่าฝูง” ในสัปดาห์นี้ ชลบุรี เอฟซี ระเบิดฟอร์มบุกไป “ถล่ม” ขอนแก่น ยูไนเต็ด ไปแบบถล่มทลาย 7 – 0 ถึงขอนแก่น แดนหมอแคน
7 ประตูที่ทำได้ มาจากผู้เล่นแค่ 2 คน DENNIS MURILLO ทำไป 4 และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ทำไป 3 ตามธรรมเนียมต้องได้บอลกลับบ้านไปคนละลูก พร้อมส่ง “ฉลามชล” ขึ้นไปยืนหนึ่งเป็นจ่าฝูงด้วยผลงานที่เด็ดดวงจริง ๆ
นัดนี้มีจังหวะที่ DOUGLAS COBO ไปทำฟาวล์ DENNIS MURILLO และบอลที่หลุดมาไปโดนแขนเขาเองอีกด้วย จึงเป็นจังหวะที่ผู้ตัดสิน ต้องรีวิวภาพจาก VAR สุดท้ายก็ให้ใบแดง DOUGLAS COBO ไปด้วย
ในวันอาทิตย์ ใบแดงลักษณะเดียวกัน ก็เกิดขึ้นที่บ้านของ สุพรรณบุรี เอฟซี เมื่อ จตุรพัช สัทธรรม ถูกผู้ตัดสินไล่ออกจากการที่ไปทำ “แฮนด์บอล” ในจังหวะยืนคุมเส้น นัดนี้จึงจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าบ้าน สุพรรณบุรี เอฟซี 2 – 1
ส่วนที่ ทรู สเตเดียม “แข้งเทพ” ทรู แบงคอก ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปได้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ด้วยสกอร์ 2 – 0 เรียกว่า “7 ปีล้างแค้นไม่สาย”
สรุปเมื่อจบนัดที่ 4 ชลบุรี เอฟซี ขึ้นมาเป็นจ่าฝูง คะแนนเท่ากับ สมุทรปราการซิตี้ ที่ฟอร์มยังดีต่อเนื่อง ที่ 8 คะแนนเท่ากัน “ฉลามชล” มีลูกได้เสียดีกว่า
ท้ายตาราง มี เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ท้ายสุดถัดมาเป็น โปลิศ เทโรเอฟซี ที่มี 2 คะแนนเท่ากัน ด้วยผลเสมอและแพ้อย่างละ 2 นัด ยังหาชัยชนะนัดแรกของฤดูกาลไม่เจอทั้งคู่
ไทยลีก 2 หรือ “เอ็ม 150 แชมเปี้ยนชิพ : M-150 Championship” แพร่ ยูไนเต็ด จ่าฝูงเมื่อสัปดาห์ก่อนก็ถูก ตราด เอฟซี ทวงจ่าฝูงกลับไปได้ ทั้งคู่มี 13 คะแนนเท่ากัน แต่ ตราด เอฟซี มีลูกได้-เสียที่ดีกว่า จากนัดล่าสุดที่ถล่ม อยุธยา ยูไนเต็ด 4 – 0 อันดับ 3 เป็น สุโขทัย เอฟซี ที่ 10 คะแนน
ท้ายตาราง ก็ยังคงเป็น สโมสรฟุตบอลราชนาวี ที่ยังหาชัยชนะไม่เจอหลังผ่านนัดที่ 5 มี เช่นเดียวกับ ขอนแก่น เอฟซี ทั้งคู่มี 1 คะแนนเท่ากัน จากผลเสมอ 1 นัด
ไทยลีก 3 หรือ “มังกรฟ้าลีก” สัปดาห์นี้เป็นการแข่งขันครบทุกโซนแล้ว โดยที่โซนกรุงเทพฯและปริมณฑล เริ่มมีการแข่งขันนัดแรก 7 คู่ที่ลงทำการแข่งขัน ไม่มีผลเสมอเลยแม่แต่สนามเดียว
ส่วนโซนภาคเหนือ อุทัยธานี เอฟซี และ พิษณุโลก เอฟซี เป็น 2 ทีมในโซนนี้ที่เก็บชัย 3 นัดรวด ในขณะที่โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมืองเลย ยูไนเต็ด ก็เก็บ 9 คะแนนเต็มได้เช่นกัน ส่วนโซนภาคใต้ นครศรี ยูไนเต็ด ก็เป็นทีมนำประจำโซนจากชัยชนะ 100%
โซนภาคตะวันออก พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด บ้านค่าย ยูไนเต็ด และ อัศวิน เกาะขวาง ยูไนเต็ด เป็น 3 ทีมที่ชนะรวดทั้ง 2 นัด โซนภาคตะวันตก สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี เอฟซี และ สระบุรี ยูไนเต็ด ก็เก็บ 6 แต้มเต็มทั้งคู่
ส่วนอีกรายการบอลถ้วย “ช้าง เอฟเอ คัพ” ก็ได้ฤกษ์ระเบิดแข้งในรอบ “คัดเลือก” ซึ่งในความเป็นจริงก็คือรอบ 96 ทีมสุดท้าย หรือรอบแรกตามรายละเอียดที่มีในคู่มือการจัดการแข่งขัน
คู่ที่ต้องถูกเลื่อนไปก็คือ คู่ระหว่าง มาแชร์ ชัยภูมิ เอฟซี กับ คัสตอม ลาดกระบัง ยูไนเต็ด เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยในปัจจุบัน ที่กินพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ
ส่วนคู่อื่น ๆ ก็จะมีคู่ที่สามารถเอาชนะกันได้ในเวลา 24 คู่ ส่วนที่ต้องมีการตัดสินด้วยการยิงที่จุดโทษ 5 คู่ ซึ่ง 4 ใน 5 คู่นั้น จบลงด้วยผลเสมอในเวลา 1 – 1
คู่ที่ต้องยิงลูกโทษกันมากที่สุดก็จะเป็น คู่ระหว่าง สายมิตรกบินทร์ ยูไนเต็ด กับ มหาสารคาม สามใบเถา เอฟซี ในเวลาเสมอกัน 0 – 0 ต้องดวลลูกโทษกันถึงฝั่งละ 9 คน ก่อนที่จะรู้ผลแพ้-ชนะ และเป็น มหาสารคาม สามใบเถา เอฟซี ผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยผลชนะ 6 – 5
รอบต่อไปก็จะเป็นรอบ 64 ทีม จะทำการจับสลากวันที่ 1 ตุลาคม นี้ ซึ่งรอบนี้ก็จะมีทีมในไทยลีก 1 เข้าร่วมโม่แข้งด้วย กำหนดการแข่งขันไว้ในช่วงวันที่ 27 ตุลาคม
ขยับมาที่ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย หลังจากที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้แต่งตั้ง “มาดามแป้ง” คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ให้ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมชาติไทยชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
รายการแรกที่ต้องมีคิวลงทำการแข่งขันก็คือ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” ที่เพิ่งได้เจ้าภาพสด ๆ ร้อน ๆ คือสิงคโปร์ ดังนั้นทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ประกาศแต่งตั้ง มาโน โพลกิ้ง นั่งแท่นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่ อย่างเป็นทางการ
ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 มาโน โพลกิ้ง เริ่มเกี่ยวข้องกับฟุตบอลไทยด้วยการเป็นผู้ช่วยโค้ชของ วิลฟรีด เชเฟอร์ กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ก่อนจะผันตัวไปคุมทีมระดับสโมสรในไทยยาวนานถึง 8 ปี ได้แก่ อาร์มี่ ยูไนเต็ด สุพรรณบุรี เอฟซี และ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ก่อนจะย้ายไปคุมทีม โฮจิมินห์ ซิตี้ ในศึกวีลีก ฤดูกาล 2020/21
พร้อมกับผู้ช่วยอย่าง “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ และ หนึ่งฤทัย สระทองเวียน สองผู้ฝึกสอนระดับโปรไลเซนส์ มากประสบการณ์ทั้งการแข่งขันในประเทศ และระดับนานาชาติ เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนคนไทย เพื่อสอดประสานการทำงานในเชิงเทคนิค การบริหารจัดการภายในของทีมชาติไทยชุดดังกล่าว โดยยังมีทีมงานผู้ฝึกสอนและสตาฟจากสมาคมฯ ซึ่งมีความพร้อม ร่วมทำงานเพื่อเป้าหมายของทีมชาติไทย
ถือเป็นการร่วมมือกันของโค้ชระดับ “โปรไลเซนส์” ถึง 3 คนในการทำทีมชาติไทยในการแข่งขันในครั้งนี้
“การเตรียมทีมของทีมชาติไทยมีน้อยมาก เราจึงมีความจำเป็นต้องเลือกโค้ชที่มีความเข้าใจและรู้จักทรัพยากรนักฟุตบอลไทยดีที่สุด ซึ่งก็มีความมั่นใจในศักยภาพของมาโน ว่าจะนำประสบการณ์ทั้งหมดมาช่วยทำให้เป้าหมายของทีมชาติไทยสำเร็จ”
นี่คือเหตุผลที่ “มาดามแป้ง” ยกขึ้นมาในการเลือกกุนซือใหญ่ให้กับทีมชาติไทยในศึกที่จะมีขึ้นสิ้นปีนี้
เมื่อเลือกแล้ว แฟนบอลอย่างเราก็ทำหน้าที่ในการสนับสนุน ขอให้อย่างน้อยผลงานแชมป์ในระดับนี้ได้บังเกิดกับทีมแถวหน้าอาเซียนอย่างทีมชาติไทย ไทยแลนด์ ปู้นๆๆๆ
ฮิมต๋ายฮิมยัง : by TTDad
ร่วมสนับสนุนโดย
#อีซูซุศาลาเชียงใหม่ #ChiangmaiFreshmilk #zetajersey #ดาวเรืองตราบ้าน #ทรายป่าห้า
.
#ไทยลีก #ไทยลีก2 #ไทยลีก3 #thaileague #ฟุตบอล #ข่าวฟุตบอล #ภาคเหนือ #ข่าวบอล #ข่าวบอลไทย #ข่าวฟุตบอลไทย #ป้อก๊าแข้ง #ไทยลีก1 #ฮิมสนาม #ฮิมสนามตั้งวงเล่า #บอลไทย #football #เล่าสู่กันฟัง #มังกรฟ้าลีก #Bluedragonleague #North #m150championship #thaileague2 #RevoThaiLeague