ฮิมต๋ายฮิมยัง : ดีลเด็ดยังมีมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง

ฟุตบอลชิงแชมป์รายการ AFF Suzuki Cup 2020 ก็กำลังแข่งขันกันอยู่ในรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนในประเทศก็ถือว่ายังอยู่ในช่วงปิดเลกของบอลลีกไทย ที่ยังจะพอมีความเคลื่อนไหวในตอนนี้ก็คงเป็นตลาดซื้อขายนักเตะกลางฤดูกาล

มาเริ่มกันที่ผลงานของทีมชาติไทย ในรายการชิงแชมป์อาเซียน AFF Suzuki Cup 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ หลังจากนัดแรกที่เราสามารถกำชัยเหนือ ติมอร์ เลสเต้ มาได้ นัดที่ 2 ขุนพลช้างศึกก็ยังทำผลงานได้ดีด้วยการเอาชนะ ทีมชาติเมียนมาร์ ไปได้ 4 – 0

เกมนี้ทีมชาติไทย ได้นักเตะที่ค้าแข้งในต่างแดนที่พลาดการลงสนามในนัดแรกลงเล่นแบบฟูลทีม ทำให้ได้เห็นศักยภาพทีมเมื่อผู้เล่นตัวหลักได้ลงเล่นพร้อมหน้าพร้อมตา ภายใต้การนำของ “กัปตันเจ” ชนาธิป สรงกระสินธิ์

และก็เป็นการประสานงานกันที่ยอดเยี่ยมของนักเตะช้างศึก ถึงแม้ในครึ่งแรกรูปเกมที่เหนือกว่าจะทำประตูออกนำได้แค่ลูกเดียว แต่จนแล้วจนรอดในครึ่งหลังก็ยิงเพิ่มได้อีก 3 ลูก เบ็ดเสร็จ “ขุนพลช้างศึก” เก็บเพิ่มไปอีก 3 คะแนนเป็นคลีนชีตนัดที่ 2 พร้อมสร้างสถิติให้กับการแข่งขันรายการนี้จากการเป็นนักเตะที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของรายการ เมื่อ ธีรศิลป์ แดงดา ทำประตูทาบเจ้าของสถิติเดิม นอห์ อลัม ชาห์ ที่ 17 ลูก

เกมนี้ถือว่าเป็นเกมที่หนักพอสมควร เพราะเท่าที่เราได้เห็นตลอดทั้งเกม เราโดนเข้าบอลหนัก และมีจังหวะ “แถม” อยู่โดยตลอด แต่กระนั้นก็ตาม มาโน่ โพลกิ้ง เองก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก เพราะเข้าใจแนวทางการเล่นของเมียนมาร์อยู่แล้ว และยังพอใจที่ได้เห็นการเล่นของทีมที่ค่อย ๆ ยกระดับขึ้นมาเรื่อย ๆ

ส่วนเกมที่ 3 ที่ช้างศึกลงทำการแข่งขัน ก็สามารถเก็บชัยชนะเหนือ ฟิลิปปินส์ ไปได้ 2 – 1 เป็นการเสียประตูแรกในรายการนี้ แต่ก็ทำให้ทีมชาติไทยการันตีผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศแน่นอนแล้ว

2 ประตูที่ได้ ก็มาจาก ธีรศิลป์ แดงดา ทำให้เจ้าตัว ก้าวข้ามเจ้าของสถิติเดิม กลายเป็นเจ้าของสถิติดาวยิงตลอดกาลคนใหม่ของรายการนี้ที่ 19 ประตู และยังคงอยู่บนเส้นทางที่จะขยับจำนวนประตูออกไปได้อีก ถือเป็นสถิติที่ไม่ได้ทำกันได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะในเกมฟุตบอลสมัยใหม่ที่ไม่ได้มีการเอาชนะกันถล่มทะลายเหมือนเช่นแต่ก่อน

จบนัดนี้ทีมชาติไทยก็จะเหลือเกมนัดสุดท้ายที่จะต้องไปวัดการเป็นแชมป์กลุ่มกับเจ้าภาพ สิงคโปร์ ที่มีผลงานชนะรวดทั้ง 3 นัด แต่มีลูกได้เสียเป็นรอง 1 ลูก ในวันเสาร์ ที่ 18 ที่ผ่านมา

และช้างศึกก็ไม่ทำให้ แฟนบอลชาวไทยผิดหวัง เก็บชัยเหนือเจ้าภาพ สิงคโปร์ ไปอย่างไม่ยาก แม้มาโน โพลกิ้งจะกล้าหาญตัดสินใจเปลี่ยนนักเตะยกชุดก็ตาม ส่งให้ เราเป็นแชมป์กลุ่ม ด้วยผลงานเก็บชัยชนะรวด 12 แต้มเต็ม เพื่อจะได้ไปพบกับที่ 2 ของกลุ่ม B ที่ตอนนี้ อินโดนีเซีย นำเป็นจ่าฝูงที่ 7 คะแนน เท่ากับ เวียดนาม ที่มีลูกได้เสียน้อยกว่า 1 ลูก ส่วนอันดับ 3 มาเลเซีย มี 6 คะแนน โอกาสเข้ารอบก็ยังมีอยู่

นัดสุดท้ายของกลุ่ม B เวียดนาม จะพบกับ กัมพูชา ส่วน มาเลเซีย จะพบกับ อินโดนีเซีย การเข้ารอบของกลุ่มนี้คงได้ลุ้นกันสนุก วันอาทิตย์ ที่ 19 ก็จะทราบว่า ใครจะได้ผ่านเข้ารอบและจะต้องไปไขว้เจอใครในรอบรองชนะเลิศ

ส่วนในประเทศ อย่างที่ทราบกันวันเป็นช่วงที่บอลลีกอยู่ในช่วงพักการแข่งขัน กว่าจะกลับมาเตะกันอีกทีก็หลังปีใหม่ แต่ละทีมตอนนี้ก็กำลังเสริมทีม ปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่น หรือแม้แต่ทีมงานผู้ฝึกสอนก็มีการปรับเปลี่ยนเช่นกัน

มากันที่ดีลที่จะเรียกว่าค่อนข้างเซอร์ไพรส์ก็เห็นจะเป็นดีลไหนไม่ได้นอกจากการโบกมือลา โยโกฮามา เอฟ. มารินอส ในศึกเจลีก ญี่ปุ่น มาซบทีมเก่าที่เคยปลุกปั้นให้เขาโด่งดังอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ของ “โก๋อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ที่กำลังลงทำศึกชิงแชมป์อาเซียน ที่ สิงคโปร์

เป็นเรื่องที่คงไม่ง่ายนักเมื่อต้องโบกมือลาทีมที่เขาอยู่ด้วยถึง 3 ฤดูกาล และเป็นที่ทราบกันมาก่อนหน้านี้แล้วว่า เป้าหมายสูงสุดของเขาคือการได้ลงเล่นใน เจลีก ก่อนหน้านี้เราได้เห็นข่าวที่มีเล็ดลอดมาว่า อดีตนายเก่าจะหนีบเขาไปเล่นในยุโรปด้วย

แต่เมื่อความชัดเจนสุดท้ายกลายเป็นการกลับบ้าน

“ผมพูดมาเสมอว่าเจลีก คือความฝันสูงสุดของผม ผมขอขอบคุณสโมสรโยโกฮามา เอฟ มารินอส ที่หยิบยื่นโอกาสให้ผมกลับมาเล่นที่นี่อีกครั้ง และมองเห็นอะไรบางอย่างในตัวผม” คำพูดบางส่วนที่เจ้าตัวได้โพสต์อำลา ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในเรื่องนี้

 “แต่สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุด คือการที่สโมสรแห่งนี้ อยู่กันเหมือนครอบครัว ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นเหมือนกับที่นี่เป็นบ้านอีกหลังนึง ทั้งสตาฟโค้ชและเพื่อนร่วมทีม ให้การยอมรับ ให้เกียรติและดูแลผมเป็นอย่างดี ดีมากจริงๆครับ”

“ส่วนหลังจากนี้ ผมจะออกไปสู้ในเส้นทางที่ผมเลือกเดินต่อไป ในวัย 31 ปี ผมยังเชื่อมั่นในสภาพร่างกายของผม ยังกระหายที่จะประสบความสำเร็จ และ พัฒนาเป็นนักฟุตบอลที่ดีขึ้นในทุกๆวัน ผมจะพยายามทุ่มเทเต็มที่ และทุกสิ่งที่มีเพื่อพาสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ ให้สมกับที่สโมสรเชื่อมั่นในตัวผมครับ

และขอขอบคุณพ่อเนวินและแม่ต่าย ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของผม และให้โอกาสผมกลับมาเล่นฟุตบอลในประเทศบ้านเกิดอีกครั้ง ผมขอฝากเนื้อฝากตัวกับแฟนบอลทุกๆคน หวังว่าทุกคนจะเป็นกำลังใจให้ผม คอยสนับสนุนผม และทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด”

และนี่ก็คือข้อความที่สื่อไปถึงสโมสรใหม่ ที่เคยเป็นบ้านหลังเก่า ชายคาที่ มีพ่อเนวิน และแม่ต่าย คอยรอต้อนรับลูกชายคนนี้กลับบ้าน

ในส่วนของลีกพระรอง ข่าวคราวที่ทำให้แฟนบอลแตกตื่นกันก็คงเป็นภาพปริศนาที่ พงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก ประธานสโมสร ลำพูน วอริออร์ โพสต์ภาพเสื้อทีมเรือใบสีฟ้า พร้อมแคปชั่นเป็นรูปอิโมจิ ทำมือ “จุ๊จุ๊” ที่ใครเห็นก็ต้องตีความไปทางเดียวกันว่า นักเตะใหม่ที่จะมาวาดลวดลายที่ “แม่กวงสเตเดียม” น่าจะเป็นอดีตนักเตะ “เรือใบสีฟ้า” เป็นแน่แท้

ก่อนที่จะมีกระแสข่าวลือว่านักเตะผู้นั้นอาจเป็น “คาร์ลอส เตเบซ” แต่เมื่อเวลาผ่านไปกระแสข่าวทุกสำนักก็ชี้ไปที่ “โช อัลเวส” ถึงขนาดว่ากันว่า การเจรจาดีลนี้สำเร็จลุล่วงไปแล้ว รอแค่บินมาชูเสื้อเท่านั้นเอง

จากประสบการณ์การเปิดตัวนักเตะของ “ราชันโคขาว” ที่ผ่านมา หากมีอะไรที่หลุดมาจากประธานสโมสร ไม่ค่อยจะพลิกโผซักเท่าไหร่ ว่าแต่จะใช่คนที่ทุกสำนักข่าวฟันธงหรือไม่นั้น อีกไม่นานก็คงจะได้ทราบกัน

ส่วนความเคลื่อนไหวของทีมอื่น ๆ ก็ยังมีกันเรื่อย ๆ เพราะเป้าหมายของแต่ละทีมนั้นไม่เหมือนกัน ต้องการเลื่อนชั้น หรือต้องการอยู่รอดต่อไป หรือต้องการหนีตาย การเสริมทีมก็เลยต่างกัน

ส่วนอีกปัจจัยที่คงไม่คิดถึงก็คงไม่ได้ นั่นก็คือ “เงิน” เพราะก็อย่างที่ทราบกันว่าปีนี้การเงินของหลายทีมนั้นเข้าขั้น “ฝืดเคือง” การจะใช้จ่ายอะไรในตอนนี้ก็คงต้องมองไปถึงความ “คุ้ม” ว่าเม็ดเงินที่จ่ายไป ตรงตามความต้องการหรือไม่

จากนี้ไปจนถึงปีใหม่ ก็คงได้เห็นรายชื่อนักเตะ ที่ตบเท้าเข้ารายงานตัวกับทีมใหม่ ต้องติดตามกันต่อว่า การเสริมทีมของแต่ละทีมนั้น เป้าหมายของทีมแท้จริงแล้ว อยากอยู่ตรงไหนเมื่อจบฤดูกาล

เครดิตภาพ : https://www.goal.com/th  / FB : https://web.facebook.com/changsuek

by TTDad

ร่วมสนับสนุนโดย
#อีซูซุศาลาเชียงใหม่ #ChiangmaiFreshmilk #zetajersey #ดาวเรืองตราบ้าน #ทรายป่าห้า
.
#ไทยลีก #ไทยลีก2 #ไทยลีก3 #thaileague #ฟุตบอล #ข่าวฟุตบอล #ภาคเหนือ #ข่าวบอล #ข่าวบอลไทย #ข่าวฟุตบอลไทย #ป้อก๊าแข้ง #ไทยลีก1 #ฮิมสนาม #ฮิมสนามตั้งวงเล่า #บอลไทย #football #เล่าสู่กันฟัง #มังกรฟ้าลีก #Bluedragonleague  #North  #m150championship  #thaileague2 #RevoThaiLeague

Warut