เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอล ก็ยังคงไม่พ้นการติดเชื้อของนักเตะ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทีม ในลีกสูงสุดก็เป็น เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ดูจะหนักหนาสาหัสกว่าเพื่อนร่วมลีก ล่าสุดพวกเขามีนักเตะและผู้เกี่ยวข้องของทีมติดเชื้อจนทำให้ไม่สามารถส่งทีมลงทำการแข่งขันได้
จากรายแรก ซาดอร์ มีร์ซาเยฟ กองกลางตัวรุกชาวอุซเบกิสถานของทีม ที่ทางสโมสรออกมาแถลงข่าวว่า เขาติดโควิด-19 แถมยังลงเล่นในเกมที่เจอกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคมที่ผ่านมาอีกด้วย
ทำให้เกิดการระส่ำ เพราะนักเตะเพื่อนร่วมทีม รวมถึงทีมคู่แข่ง เข้าข่ายเป็นผู้เสี่ยงสูง และก็เป็นไปตามที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะเป็นคลัสเตอร์ในวงการฟุตบอล เมื่อจำนวนของผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็วจนจำนวนที่มีการรายงานล่าสุดคือ 15 ราย
ส่วน การท่าเรือ เอฟซี ที่มีปัญหาของการติดเชื้อก่อนหน้านี้ก็ไม่น้อยหน้า เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อทะยานไปอยู่ที่ 14 ราย
ทำให้เกมการแข่งขันที่ทั้ง เมืองทอง ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซี ต้องลงทำการแข่งขันทั้งฟุตบอลลีก และฟุตบอลถ้วย มีอันต้องถูกเลื่อนออกไป ก็เพื่อความปลอดภัยของทั้งนักเตะและผู้เกี่ยวข้องต่าง ๆ
โดยในแมทช์เดย์ที่ 18 ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบ เมืองทอง ยูไนเต็ด และคู่ การท่าเรือ เอฟซี พบ สุพรรณบุรี เอฟซี ก่อนหน้านี้ในเกมฟุตบอลถ้วย ช้าง เอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีม คู่ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ อุทัยธานี เอฟซีและ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบ การท่าเรือ เอฟซี ก็ถูกเลื่อนการแข่งขันออกไปเช่นกัน
แน่นอนว่าหากไม่ดำเนินการเช่นนี้ อาจเกิดปัญหาการติดเชื้อลุกลามมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตารางการแข่งขัน และหากยังจำกันได้ถึงการตัดจบการแข่งขันที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ก็เพราะเหตุจากการแพร่ระบาดของวิด-19 นี่แหล่ะครับ
และเพื่อเป็นการรับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ไทยลีก และตัวแทนสโมสรสมาชิกในระดับไทยลีก 1 เปิดประชุมร่วมกันเพื่อหารือและสรุปข้อตกลงในเรื่องยืนยันการดำเนินการจัดแข่งขันต่อภายใต้สถานการณ์โควิด-19 เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยในที่ประชุมมีการหารือร่วมกันถึงแนวทางการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ภายใต้สถานการณ์โควิด-19
สาระสำคัญคือการหาข้อตกลงเรื่องของการจัดการแข่งขัน และปัญหาที่จะกระทบตามมาหากมีการเลื่อนการแข่งขันออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยในหัวข้อการจัดการแข่งขันตามมาตรการฯ (SOP) ที่ประชุมมีมติร่วมกันดังนี้
บังคับใช้มาตรฐานการดำเนินการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ (SOP) และมาตรการพิเศษการขึ้นทะเบียนนักกีฬาทดแทน ในกรณีที่ทีมพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยจะไม่มีการขอเลื่อนการแข่งขันอีกในทุกกรณี อย่างที่ได้เขียนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
กรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสโมสร ขอให้สโมสรปฏิบัติตามแนวทางที่ได้ระบุในมาตรฐานการดำเนินการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ (SOP) หัวข้อแนวทางการสนับสนุนด้านการแพทย์และการควบคุมโรคระบาด
สรุปก็คือ ผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ ให้แยกเข้ารับการรักษาตามมาตรการทางด้านสาธารณสุข คนอื่น ๆ ที่ลงทำการแข่งขัน และฝึกซ้อมภายในทีมเดียวกัน จะถูกพิจารณาว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ก็จะต้องมีการตรวจและเฝ้าระวัง จนกว่าผลตรวจว่าไม่พบการติดเชื้อ
กรณีที่ทีมพบนักกีฬาติดเชื้อที่มีการยืนยัน และคงเหลือนักกีฬาที่ขึ้นทะเบียนในทีมไม่เกิน 15 คน ที่มีผลตรวจยืนยันว่าไม่ติดเชื้อ หรือ ได้รับคำสั่งให้กักตัว หรือให้งดการเดินทาง ให้บังคับใช้มาตรการพิเศษการขึ้นทะเบียนนักกีฬาทดแทนฯ
ในกรณีที่มีทีมพบผู้ติดเชื้อ โดยทีมใดคงเหลือนักกีฬาทั้งทีมรวมกัน พร้อมลงทำการแข่งขันน้อยกว่า 11 คน ณ วันแข่งขัน โดยมีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ หรือสาเหตุอื่นใดก็ตาม ให้ปรับทีมนั้นเป็นแพ้
กรณีที่ทีมได้รับหนังสือขอให้งดการจัดการแข่งขันในพื้นที่ ให้สโมสรทีมเหย้าหาสนามทดแทนเพื่อทำการแข่งขัน ในกรณีที่ไม่สามารถจัดหาสนามทดแทนได้ทันในวันแข่งขัน จะถือเป็นความบกพร่องของสโมสรทีมเหย้า และจะมีความผิดตามระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
ถือเป็นข้อตกลงร่วมกันของไทยลีกและสโมสรสมาชิกในระดับไทยลีก 1 แต่ก็แปลกใจว่า มาตรการนี้จะบังคับใช้ทั้งไทยลีก 1 และ ไทยลีก 2 แต่ก็ไม่ปรากฎว่ามีเรียกสโมสรสมาชิกในไทยลีก 2 เข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด
ควันหลงจากเกมไทยลีก 1 คู่ระหว่าง หนองบัว พิชญ เอฟซี พบกับ ชลบุรี เอฟซี โดยในเกมดังกล่าวมีจังหวะดราม่าในช่วง 10 นาทีสุดท้าย เมื่อ ฉัตรชัย เจียกกลาง แบ็กขวาของเจ้าบ้าน ชักศอกใส่ ชิษณุพงษ์ โชติ ที่พยายามตัดเกมด้วยการดึง จนร่วงลงไปกองกับพื้น
แต่จังหวะดังกล่าว วินัด โพธิ์พัฒน์ ผู้ตัดสินที่ 1 ตัดสินใจแจกแค่ใบเหลืองให้ ฉัตรชัย เจียกกลาง เท่านั้น แม้จะมี VAR ก็ไม่ได้มีการแก้โทษใบเหลือง แต่อย่างใด
หลังจบการแข่งขัน ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีม ชลบุรี เอฟซี ออกมาร้องขอคำชี้แจง กลับถูกผู้ตัดสินบอกว่า ไม่เห็นจังหวะชักศอก ประกอบกับโชว์ใบรับรองแพทย์ที่ระบุถึงอาการบาดเจ็บ ชิษณุพงษ์ โชติ ในภายหลัง ส่วนทางด้าน ฉัตรชัย เจียกกลาง แบ็กขวา หนองบัวฯ ได้ออกมาขอโทษไปแล้วเรียบร้อย
ด้าน “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ กุนซือ ชลบุรี เอฟซี ก็ฝากคำถามถึง ผู้ตัดสินไม่เห็นจังหวะสับศอกใส่ ชิษณุพงษ์ โชติ ของ ฉัตรชัย เจียกกลาง จริงหรือ และ จังหวะนี้ถือการทำร้ายคู่ต่อสู้หรือไม่
“ผมโกรธนะ และ รู้สึกงงงจริงๆ กับการทำหน้าที่ ของ วินัด โพธิ์พัฒน์ ผู้จัดสินในสนาม และ ภานุมาศ พันธุ์สะโม ผู้ตัดสิน VAR ที่บอกว่า “การสับศอก” ของนักเตะหนองบัวฯ ไม่โดน และไม่ถือเป็นการทำร้ายคู่ต่อสู้ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ เหรอครับ ผมอยากให้ท่านได้ตอบคำถาม และ ชี้แจงเหตุผลตรงนี้”
จนทำให้ทาง คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ต้องมีการประชุมพิจารณาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสุดท้ายได้มีมติลงโทษให้ วินัด โพธิ์พัฒน์ ผู้ตัดสิน และ ภาณุมาศ พันธ์สะโม ผู้ช่วยผู้ตัดสิน VAR ที่ทำหน้าที่ในเกมดังกล่าว หยุดการปฏิบัติหน้าที่คนละ 2 สัปดาห์ ตั้งแต่ 20 ม.ค. – 3 ก.พ. 2565
เมื่อเกมในระดับไทยลีก 1 มีการใช้ VAR เพื่อให้เกมการแข่งขันที่อาจเกิดปัญหา ให้มีการตัดสินที่ถูกต้อง แต่อย่างที่เราทราบก็คือว่า สุดท้ายแล้วผลการตัดสินนั้นใช้ดุลยพินิจของผู้ตัดสินในสนาม
และเมื่อการใช้ดุลยพินิจนั้นผิดพลาด ก็ต้องมีคณะกรรมการพิจารณากันอีกครั้งว่าการใช้ดุลยพินิจนั้นถูกต้องหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะมีคณะกรรมการพิจารณาอีกครั้ง แต่หากมันส่งผลต่อผลแพ้ชนะในสนามแล้ว มันก็ไม่ได้เปลี่ยนคำตัดสินนั้นแต่อย่างใด
เรื่องนี้แหล่ะครับที่น่าเป็นห่วง “จะต๋ายจะยัง” มันขึ้นอยู่กับเวลาในเกมเท่านั้นครับ
เครดิตภาพ : https://www.goal.com/ | https://www.thaileague.co.th/ | https://www.matichon.co.th/sport
BY TTDad
ร่วมสนับสนุนโดย
#อีซูซุศาลาเชียงใหม่ #ChiangmaiFreshmilk #zetajersey #ดาวเรืองตราบ้าน #ทรายป่าห้า
.
#ไทยลีก #ไทยลีก2 #ไทยลีก3 #thaileague #ฟุตบอล #ข่าวฟุตบอล #ภาคเหนือ #ข่าวบอล #ข่าวบอลไทย #ข่าวฟุตบอลไทย #ป้อก๊าแข้ง #ไทยลีก1 #ฮิมสนาม #ฮิมสนามตั้งวงเล่า #บอลไทย #football #เล่าสู่กันฟัง #มังกรฟ้าลีก #Bluedragonleague #North #m150championship #thaileague2 #RevoThaiLeague