เข้าสู่ช่วงปลายเดือนแรกของปี 2565 กันแล้ว อากาศช่วงนี้แปรปรวน หลายอย่างบนโลกใบนี้ก็ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดหย่อน
เรื่องที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลบ้านเราก็เช่นกัน จะว่าแปรปรวนก็ใช่ จะว่าเพิ่งมาโป๊ะแตกกันก็ไม่เชิง มันมีเรื่องราวให้ได้พูดถึงไม่เว้นแต่ละวัน
ผลการแข่งขันของฟุตบอลลีกในประเทศ ที่เรียกว่าต้องติดตามสถานการณ์ของแต่ละทีมกันแบบวันต่อวัน เพราะอย่างที่ทราบว่ามีบางสโมสรที่ต้องเผชิญกับการติดเชื้อของผู้เล่น รวมถึงทีมงานสโมสร จนต้องมีการประกาศเลื่อนเกมการแข่งขันออกไป
แต่ก็อย่างที่ได้เรียนไปแล้วว่า การจัดการแข่งขันตามมาตรการฯ (SOP) นั้นถูกประกาศใช้แล้ว ทำให้นับจากวันที่ประกาศ หากทีมไหนที่เผชิญปัญหาของการแพร่ระบาด ก็จะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้รับทราบร่วมกันแล้ว นั่นหมายความว่าเกมการแข่งขันจะไม่มีการเลื่อนออกไปอีกแล้ว แต่จะต้องมีการดำเนินการให้ถูกต้องตาม มาตรการฯ (SOP)
สุดสัปดาห์นี้ เกมการแข่งขันที่ถูกวางไว้ก็จะมีการแข่งขันกันครบทุกคู่ ส่วนนักเตะจะพร้อมแค่ไหน เป็นหน้าที่ของแต่ละสโมสรจะต้องจัดการกันเอง ทำให้ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซี กับ สุพรรณบุรี เอฟซี เป็น 2 คู่ที่ได้สิทธิ์เลื่อนเป็น “ครั้งสุดท้าย”
หัวตารางเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ถึงคิวต้องมาเจอกันเอง และยังเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ยังคงทำผลงานได้เหนือ แบงค็อก ยูไนเต็ด ต่อไปและจากผลชนะในนัดนี้ทำให้ “ปราสาทสายฟ้า” ยืดช่องว่างออกไปเป็น 6 คะแนน
ส่วน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ตัดสินใจเด้ง “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน เซ่นผลงานที่ทำทีมไม่ชนะในลีก 5 เกมติด ต่อกัน และแต่งตั้ง “โค้ชง้วน” สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ เข้ามาทำหน้าที่อีกครั้ง เหมือนเช่นที่ผ่าน ๆ มา
แต่การประเดิมเกมแรกของ “โค้ชง้วน” ก็ทำได้แค่แบ่งแต้มกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่มี บาร์รอส ทาร์เดลี ที่ใช้โควตายิงทีมเก่า ทำให้เกมจบลงที่สกอร์ 1 – 1 เพิ่มสถิติไม่ชนะในลีกเป็น 6 เกมติด โอกาสป้องกันแชมป์ทำให้ดูเลือนลางลงไปเรื่อย ๆ
ล่าสุด พวกเขาเพิ่งมีข่าวว่าได้ทำการประกาศแต่งตั้ง มาโกโตะ เทกุระโมริ อดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติญี่ปุ่นคุมทัพแทนที่ “โค้ชง้วน” แล้ว โดยจะคุมทีมลงทำการแข่งขันในรายการฟุตบอลไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก 2021-22 และ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม ที่จะเริ่มแข่งขันกลางเดือนเมษายน 2565 นี้ แต่กว่าเจ้าตัวจะเดินทางมาก็ต้องเป็นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
ส่วนท้ายตาราง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่จมอยู่ท้ายตาราง ภายหลังการเข้ามาเติมเพื่อหนีตกชั้นทั้ง บิล โรชิม่า และ เอกนิษฐ์ ปัญญา เกมที่พวกเขาออกไปเยือน นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี แฟนบอลก็แอบมีหวังเล็ก ๆ ว่าจะปลดล็อก 3 แต้มได้เสียที ด้วยการออกนำเจ้าบ้าน 2 – 0 ในครึ่งแรก
แต่ฟุตบอลที่เล่นกัน 2 ครึ่ง แล้วก็กลายเป็นหนังคนละม้วน เมื่อครึ่งหลัง “สวาทแคท” เจ้าบ้านตามมาทวงคืน 2 ลูกรวด ทำให้เมื่อจบเกม “ช้างเผือก” คว้าได้แค่ 1 แต้ม เดินทางกลับเวียงพิงค์ และแน่นอนยังจมอันดับสุดท้ายของตารางต่อไป ด้วยสถิติที่ไม่อยากจดจำ 12 เกมติดแล้วที่พวกเขายังเอาชนะใครในลีกไม่ได้
ส่วนในลีกพระรอง เกมบิ๊กแมทช์คงต้องยกให้ ลำพูน วอริเออร์ อันดับ 3 เปิดบ้านรับมือ สุโขทัย เอฟซี แต่สังเวียนการฟาดแข้งต้องถูกโยกไปใช้ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เป็นการชั่วคราว เพราะเจ้าบ้านเองไม่อยากจะเสี่ยงใช้รังเหย้าที่แม่กวง ทำศึกนัดสำคัญนัดหนึ่งในฤดูกาล ที่เพิ่งถูกยุติการแข่งขันในศึก ช้าง เอฟเอ คัพ ด้วยเหตุที่ไฟส่องสนามเกิดขัดข้อง
ลำพูน วอริเออร์ ถือว่าเป็นทีมที่กำลังฟอร์มแรงจนขึ้นมารั้งอันดับ 3 จากผลงานที่ดีต่อเนื่อง ไม่แพ้ในทุกรายการต่อเนื่องมาถึง 13 นัด ทำแต้มจ่อ สุโขทัย เอฟซี ทีมรองจ่าฝูงแค่เพียง 3 คะแนนเท่านั้น
เกมการแข่งขันทำท่าว่าจะเข้าทางเจ้าบ้าน เมื่อผู้มาเยือนพลาดท่าเสียใบแดงไปตั้งแต่นาทีที่ 3 จากการทำฟาวล์ หม่อง หม่อง ลวิน ที่กำลังจะหลุดเดี่ยวเข้ากรอบเขตโทษ
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เกมง่ายที่เจ้าบ้านจะทำประตูผู้มาเยือนที่เหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่า แม้ ทาเลส ลิม่า จะทำประตูออกนำให้เจ้าบ้านในช่วงท้ายเกม แต่ เมลวิน เดอลูว์ ก็มาซัดจุดโทษให้ผู้มาเยือนที่ตัวผู้เล่นน้อยกว่ารอดพ้นความพ่ายแพ้ไปได้
ผมเสมอในนัดนี้ เป็นทางลำพูน วอริเออร์ ที่พลาดโอกาสทำแต้มเท่ากับรองจ่าฝูง ยังต้องเผชิญสถานการณ์ที่เป็นรอง สุโขทัย เอฟซี ที่การันตีว่าพวกเขาจะจบอันดับดีกว่า ลำพูน วอริเออร์ แม้ว่าจะมีแต้มเท่ากันเพราะ “เฮดทูเฮด” จากเกมแรกที่เจอกัน “ค้างคาวไฟ” เป็นฝ่ายเอาชนะมาได้ 2 – 1
จะเรียกว่าเสียหายไม่น้อยก็คงพูดได้ แต่ก็ต้องชม สุโขทัย เอฟซี ที่พวกเขาแม้จะพลาดท่าเสียผู้เล่นไปตั้งแต่เขี่ยลูกไม่กี่อึดใจ การปรับทีม การลงเล่นด้วยความอดทน และสู้ร่วมกัน ทำให้พวกเขาข้ามพ้นหายนะมาได้ “ฮิมต๋ายฮิมยัง” จริง ๆ
ไหน ๆ ก็มาประเด็นเรื่องไฟส่องสนามที่ “แม่กวงสเตเดียม” ที่เกิดขัดข้องจนทำให้เกม ช้าง เอฟเอ คัพ ที่พวกเขาเปิดบ้านรับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ต้องถูกสั่งให้ยุติการแข่งขัน
ก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มขึ้น เกิดปัญหาเรื่องไฟส่องสว่าง จนเกมนี้ถูกขยับเวลาคิกออฟออกไป 40 นาที และหลังจากเริ่มเกมได้แค่ 3 นาที ไฟส่องสว่างก็เกิดขัดข้องขึ้นมาอีก ทำให้ต้องรีบดำเนินการแก้ไขจนกลับมาแข่งขันต่อได้ แต่ก็ใช้เวลาไปร่วม 20 นาที แม้ว่าจะกลับมาเตะต่อได้ แต่ก็เกิดความขัดข้องอีกครั้ง
และครั้งนี้เองที่เป็นเหตุให้เกมการแข่งขันนัดนี้ต้องยุติลง ในคู่มือการแข่งขันระบุเอาไว้ว่า “กรณีเป็นความบกพร่องของสนามสโมสรทีมเหย้า ไม่ว่ากรณีไฟฟ้าดับ หรือน้ำท่วมสนามที่ใช้ทำการแข่งขันจนไม่สามารถทำการแข่งขันได้ ให้นำระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มาบังคับใช้โดยอนุโลม”
และแน่นอนว่า “ระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาทฯ” ก็มีการระบุไว้ในข้อ 5.1.10 ว่า “ไฟฟ้าส่องสว่างสําหรับใช้ส่องสนามแข่งขันขัดข้อง จนไม่สามารถดําเนินการแข่งขันต่อไปได้ในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังนี้
(1) ไฟฟ้าส่องสนามขัดข้องมากกว่า 3 ครั้ง ในระหว่างการแข่งขัน
(2) ไฟฟ้าส่องสนามขัดข้องเป็นระยะเวลารวมกันทั้งหมดเกินกว่า 60 นาที
องค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้า มีโทษถูกปรับแพ้ทั้งต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายตามที่เกิดขึ้นจริงกับสมาคม
และการตัดสินโดยคณะกรรมการฯ ที่มี พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธาน ก็ตัดสินออกมาตามระเบียบ แน่นอนว่าทาง ลำพูน วอริเออร์ ก็มีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์ ภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่วันที่ได้แจ้งผลการพิจารณาจากคณะกรรมการฯ และจากกระแสข่าว ก็ยืนยันว่ามีการยื่นอุทธรณ์ไปตามสิทธิ์แล้ว
ถือว่าไม่ง่ายเลยในการต่อสู้ ถึงแม้จะมีหลักฐานที่จะสามารถชี้แจงได้ว่า ความบกพร่องที่เกิดขึ้นนั้นมาจากความไม่ได้ตั้งใจของเจ้าของสนามตัวจริง แต่ก็ไม่ง่ายที่จะปัดความรับผิดชอบในฐานะสโมสรเจ้าบ้านได้
แต่ถ้าหากการอุทธรณ์เป็นผล เกมการแข่งขันจะถูกกำหนดให้แข่งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ รวมกับอีก 2 คู่ที่เลื่อนมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ก็ต้องมาดูครับว่า การอุทธรณ์จะเป็นผลหรือไม่ “ฮิมต๋ายฮิมยัง” จะได้แข่งใหม่ไหมหนอ “ราชันโคขาว”
เครดิตภาพ : FB : Talungballthai – ถลุงบอลไทย / FB : Chiangmai United / https://www.goal.com/th
ร่วมสนับสนุนโดย
#อีซูซุศาลาเชียงใหม่ #ChiangmaiFreshmilk #zetajersey #ดาวเรืองตราบ้าน #ทรายป่าห้า
.
#ไทยลีก #ไทยลีก2 #ไทยลีก3 #thaileague #ฟุตบอล #ข่าวฟุตบอล #ภาคเหนือ #ข่าวบอล #ข่าวบอลไทย #ข่าวฟุตบอลไทย #ป้อก๊าแข้ง #ไทยลีก1 #ฮิมสนาม #ฮิมสนามตั้งวงเล่า #บอลไทย #football #เล่าสู่กันฟัง #มังกรฟ้าลีก #Bluedragonleague #North #m150championship #thaileague2 #RevoThaiLeague