เสร็จสิ้นกันไปสด ๆ ร้อน ๆ สำหรับฟุตบอลในลีกสูงสุดของประเทศ ทีมสุดท้ายที่ตกชั้นก็มาวัดกันที่นัดสุดท้ายนี่แหล่ะครับ ส่วนไทยลีก 2 เองก็ยังคงมันหยดจนนัดสุดท้ายเช่นกัน
อย่างที่เราทราบกันไปนานแล้วว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือทีมแชมป์ในฤดูกาลนี้ แต่น่าเสียดายที่นัดสุดท้ายที่ลงเล่นที่ สุพรรณบุรี แชมป์ไทยลีก 1 ปิดฉากฤดูกาลไม่สวยนัก เมื่อเป็นฝ่ายบุกมาพ่ายเจ้าถิ่นที่เล่นทิ้งทวนลีกสูงสุด 1 – 2
แฟนบอลที่ตามมาจากบุรีรัมย์กว่า 20 คันรถบัส จำต้องฉลองถ้วยแชมป์ด้วยความปราชัยในนัดสุดท้าย อารมณ์คือแบบดีใจได้ไม่สุด ว่ากันอย่างนั้น
รองแชมป์ในปีนี้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด นัดสุดท้ายออกลูกโหดด้วยการถล่ม ฉลามชล ไป 4 – 1 ส่วนอันดับ 3 ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ก็เอาชนะ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ไปได้ 4 – 2 ทั้ง 3 ทีม จะได้เล่นถ้วย เอซีแอล ในฤดูกาลหน้า เหลือทีมแชมป์ เอฟเอ คัพ อีก 1 ทีมสำหรับโควต้าทีมที่ 4
ส่วนกลุ่มตกชั้นนั้น ก่อนนัดสุดท้าย สุพรรณบุรี เอฟซี เป็นทีมที่ 2 ที่ตาม เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ลงมาเล่นลีกพระรอง ทำให้โควต้าสุดท้ายเป็นการเดิมพันระหว่าง พีที ประจวบ เอฟซี และ สมุทรปราการ ซิตี้ ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล
เงื่อนไขของ พีที ประจวบ เอฟซี ในการอยู่รอดนั้นมีอยู่หลายเงื่อนไข ขอแค่มีแต้ม ก็จะไม่ตกชั้น หรือถ้าแพ้ ก็ขอให้แพ้เหมือนกัน แต่กรณีของ สมุทรปราการ ซิตี้ นั้น ดูเหมือนจะมีน้อยกว่า นั่นคือต้องชนะ และแช่งให้ พีที ประจวบ เอฟซี แพ้ด้วย เท่านั้น
ผลการแข่งขันที่ออกมา พีที ประจวบ เอฟซี ออกไปพ่ายให้กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด 1 – 2 เป็นสกอร์เดียวกันกับที่ สมุทรปราการ ซิตี้ เปิดบ้านแพ้ให้กับ เชียงราย ยูไนเต็ด
ทำให้ตั๋วใบสุดท้ายตกเป็นของ สมุทรปราการ ซิตี้ ไปในที่สุด ทำให้การแข่งขันในไทยลีก 2 ฤดูกาลหน้าจะเข้มข้นขึ้นมากอย่างแน่นอน เพราะทีมที่ตกลงไปนั้น แน่นอนว่าไม่อยากอยู่นาน
สรุปไทยลีก 1 แชมป์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองแชมป์ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อันดับ 3 ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นตัวแทนประเทศ 3 ทีมแรกไปเล่นถ้วยสโมสรเอเชีย
ทีมที่ตกชั้นสู่ไทยลีก 2 สุพรรณบุรี เอฟซี สมุทรปราการ ซิตี้ และเชียงใหม่ ยูไนเต็ด
ส่วนไทยลีก 2 ที่เกมนัดสุดท้ายเกิดขึ้นไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็น ราชันโคขาว ลำพูน วอริเออร์ ที่ฟอร์มยังแรงต่อเนื่องบุกไปเอาชนะ เกษตรศาสตร์ เอฟซี 3 – 0 ถือเป็นการเอาชนะเป็นนัดที่ 3 ที่เจอกันในฤดูกาลนี้ และเป็นการยิงข้างเดียวเสียด้วย เกษตรศาสตร์ เอฟซี ไม่สามารถยิงได้แม้แต่ลูกเดียว
ทำให้ ลำพูน วอริเออร์ ก้าวขึ้นไปรับถ้วยแชมป์ไทยลีก 2 อย่างเหนือความคาดหมายหากเทียบกับที่ผู้สันทัดกรณีทั้งหลายที่ฟันธงกันไว้ตั้งแต่ตอนออกสาร์ทว่าขึ้นมาเพื่อเก็บเลเวล
ถือเป็นทีมที่ 3 ต่อจากเมืองทอง ยูไนเต็ด และ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่สามารถคว้าแชมป์ลีกล่าง ต่อด้วยลีกพระรองติดต่อกันใน 2 ฤดูกาล เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับทีมอีกด้วย สร้างความสุขให้กับเหล่ากองเชียร์ที่ยกพลไปจนเต็มพื้นที่ของทีมเยือน
สุโขทัย เอฟซี ตามมาเป็นที่ 2 คว้าสิทธิ์เลื่อนชั้นอัตโนมัติ หลังบุกไปเอาชนะ อยุธยา ยูไนเต็ด ในช่วงทดเจ็บ ปล่อยให้เจ้าของสถิติครองอันดับ 1 ยาวนานที่สุดในลีก ตราด เอฟซี ต้องไปเพลย์ออฟในฐานะทีมอันดับที่ 3 ในการเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด หลังจากที่ทำได้แค่ไล่ตามตีเสมอ นครปฐม ยูไนเต็ด
ชัยนาท ฮอร์นบิล อันดับ 4 จากนัดรองสุดท้ายบุกไปแพ้ สโมสรฟุตบอลราชประชา ทำให้ ลำปาง เอฟซี ที่ไปปราบ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ในทำศึกแย่งพื้นที่เพลย์ออฟ ทำคะแนนมาเทียบ แต่ก้าวขึ้นมายึดอันดับ 4 จากลูกได้เสียที่เหนือกว่า นกใหญ่พิฆาตร จึงต้องตกมาเป็นที่ 5 แทน
โควต้าเพลย์ออฟสุดท้าย กลายเป็น แพร่ ยูไนเต็ด ที่เป็น “ตาอยู่” คว้าอันดับ 6 ลำดับสุดท้ายของการเพลย์ออฟ เพราะ ลำปาง เอฟซี และ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด คู่แข่งแย่งโควต้าต้องมาโคจรมาเจอกันเอง และมีฝ่ายที่เพลี่ยงพล้ำ และทีมนั้นก็คือ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด
เรียกว่าเจ็บช้ำในนัดสุดท้ายนี่เอง ต่อหน้าแฟนบอลที่เข้ามาให้กำลังใจอย่างเนืองแน่นที่กลีบบัว ปิดฉากฤดูกาลอันขมขื่นที่เจอมรสุมถาโถมเข้าใส่ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล
ส่วนสโมสรฟุตบอลราชประชา แม้จะโชว์ฟอร์มในนัดสุดท้ายด้วยการถล่ม ชัยนาท ฮอร์นบิล แต่ก็ไม่เพียงพอให้พวกเขาได้อยู่รอดต่อไป เพราะ คัสตอม ลาดกระบัง ยูไนเต็ด ก็เก็บ 3 แต้มได้เช่นกัน ทำให้ สิงห์นายด่าน ยังได้เป็นสมาชิกของลีกพระรองต่อไปอีก 1 ฤดูกาล
สรุป แชมป์ ลำพูน วอริเออร์ รองแชมป์ สุโขทัย เอฟซี ควงคู่ขึ้นสู่ลีกสูงสุด 2 ทีมแรก
ตกชั้นไปสู่ไทยลีก 3 สโมสรฟุตบอลราชประชา ขอนแก่น เอฟซี และ สโมสรฟุตบอลราชนาวี
เพลย์ออฟ เพื่อหาทีมไปเล่นไทยลีก 1 ทีมสุดท้าย ตราด เอฟซี ลำปาง เอฟซี ชัยนาท ฮอร์นบิล และ แพร่ ยูไนเต็ด
เพลย์ออฟนัดแรก แพร่ ยูไนเต็ด – ตราด เอฟซี และ ชัยนาท ฮอร์นบิล – ลำปาง เอฟซี วันที่ 8 พฤษภาคม และนัดที่ 2 สลับการเป็นเจ้าบ้าน 14 พฤษภาคม
เดือดแน่นอนครับ สำหรับโควต้าสุดท้าย จะมีผู้สมหวังแค่เพียงทีมเดียว แต่อกหักจะมีถึง 3 ทีมด้วยกัน
ปิดท้ายที่ไทยลีก 3 บทสรุปคือ อุทัยธานี เอฟซี แชมป์ รองแชมป์ กระบี่ เอฟซี และอันดับ 3 นครศรี ยูไนเต็ด ทั้ง 3 ทีมจะได้รับหนังสือตอบรับการร่วมการแข่งขันในลีกพระรองในฤดูกาลหน้า
แน่นอนว่าทุกทีมที่จะได้หนังสือตอบรับในทุกระดับของลีก จะต้องผ่าน “คลับไลเซนซิ่ง” ของแต่ละระดับด้วย ไม่อย่างนั้น ผลงานที่ได้ทำกันมาจะ “สูญเปล่า” ตกม้าตายเพราะไม่ผ่านมาตรฐานที่ไทยลีกกำหนดไว้
นอกจากเรื่องคลับไลเซ่นซิ่งแล้ว หลังจากจบการแข่งขันฟุตบอลลีก สิ่งที่จะคึกคักก็เป็นตลาดซื้อขายนักเตะ แน่นอนว่าเมื่อมีการปรับเปลี่ยนสถานะ ไม่ว่าจะเลื่อนชั้น ตกชั้น หรือยังอยู่ในลีกเดิม สิ่งที่หลีกหนีไม่พ้นก็คือการโยกย้ายของนักเตะ และโค้ช
จากนี้ไปก็จะมีข่าวทั้งข่าวลือ ข่าวจริง ข่าวปล่อย ออกมาให้แฟนบอลของแต่ละสโมสรได้ติดตามกัน แน่นอนหลายคนก็อยากเห็นโฉมหน้าใหม่ของทีมที่ตัวเองเชียร์ ใครจะมาใครจะไป คงต้องติดตามลุ้นกันต่อไปครับ
นี่คือบทสรุปแรกของฟุตบอลลีกไทย จะเหลือก็แต่เพลย์ออฟไทยลีก 2 ที่จะกินเวลาอย่างน้อยก็ 4 สัปดาห์นับจากนี้ เมื่อถึงวันนั้นก็จะได้รู้ว่าบทสรุปสุดท้ายประจำฤดูกาลนี้จะเป็นเช่นไร
เครดิตภาพ FB Thailive | FB Thai League | FB Thai League 2 M-150 Championship | Goalthailand.com
by TTDad