ช่วงปิดฤดูกาลถือเป็นช่วงการเปิดตลาดซื้อขายนักเตะ ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งฤดูกาลใหม่ใกล้ที่เข้ามาเรื่อย ๆ เราก็จะได้เห็นการเปิดตัวนักเตะใหม่ของแต่ละสโมสรมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
วันนี้ที่อยากจะเขียนก็คือตะกร้าช้อปปิ้งของแต่ละสโมสรนั้น มักจะมีนักเตะแบบไหนที่ถูกเลือกหยิบมาใส่ในตะกร้ากันบ้าง โดยเฉพาะ “ของดี” ที่อยู่กับทีมที่ต้องตกชั้นไป
เริ่มต้นกันที่ สุพรรณบุรี เอฟซี การตกชั้นของพวกเขาก็เป็นชะตากรรมเช่นเดียวกับทุกลีกในโลกนี้คือ บรรดานักเตะที่ทำผลงานส่วนตัวได้ดี ก็มักจะถูกดึงตัวไปร่วมทีม อีกอย่างตัวนักเตะเองก็อยากจะเล่นในลีกสูงสุดต่อไป
ลอสเซมี่ คาราบูเอ้ กองกลางชาวโกตดิวัวร์ เป็นนักเตะคนแรก ๆ ที่มีบรรดาหลายทีมในไทยลีก 1 หมายตาเอาไว้ สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม พีที ประจวบ เอฟซี พ่วง แพททริค เดย์โต นายทวารฟิลิปปินส์ ไปด้วยอีกคน
ส่วนที่ไปแพคคู่อีกคู่นึงก็คือ สันติภาพ ราษฏร์นิยม กับ สหวิช ขำเปี่ยม ที่เดินทางขึ้นเหนือมาอยู่กับน้องใหม่ “ราชันโคขาว” ลำพูน วอริเออร์
ส่วนกองหน้าเนื้อหอมของทีม ดานิโล่ อัลเวส เดินทางไปเป็นสมาชิกใหม่ของ “ฉลามชล” ชลบุรีเอฟซี ส่วนกองกลางอย่าง รัชนาท อรัญไพโรจน์ ก็ไปเป็นนักเตะใหม่ของแข้งเทพ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เหล่านี้คือกลุ่มที่เรียกว่าเป็น “ของดี” จากเมืองสุพรรณ
ส่วนฟากฝั่งของ สมุทรปราการ ซิตี้ ก็เกิดปรากฏการณ์เลือดไหลออกเช่นกัน เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ หัวใจหลักของทีม แม้จะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานจนฤดูกาลที่ผ่านมาได้ลงเล่นน้อยเหลือเกินแค่ 14 นัดเท่านั้น
แต่ชื่อชั้นระดับ ปีกตัวเก่งของทีมและทีมชาติไทย ย่อมเป็นที่ต้องการของบรรดาทีมหัวแถว และสุดท้ายสถานีถัดไปของเขาก็อยู่ที่รังสิต บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คือทีมใหม่ของเขาในฤดูกาลหน้า ยังไม่นับรวมกับอีกหลายคนที่กำลังจะมีทีมใหม่ให้ได้เล่นฤดูกาลหน้า
ส่วน เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ก็ถูกกระชากของดีไปเช่นกัน เริ่มที่ บวร ตาปลา ที่ย้ายลงใต้ข้ามแดนเมืองมาอยู่กับ ลำพูน วอริเออร์ ส่วนกองหน้าตัวเก่งของทีม ถวิล บุตรสมบัติ ก็ย้ายไปเป็นกองหน้าคนใหม่ของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด
ปรากฎการณ์ก็มักจะเป็นเช่นนี้เสมอเมื่อต้นสังกัดมีอันต้องถูกลดชั้นลงไปเล่นในลีกที่ต่ำกว่า ซึ่งสโมสรก็ต้องยอมรับสภาพและพยายามต่อสู้เพื่อกลับขึ้นมายังลีกสูงสุดให้ได้ใน 1 ปี
ส่วนอีกปรากฎการณ์ที่มักจะมาควบคู่กันก็คือการหยิบยืมนักเตะระหว่างสโมสรต่าง ๆ ไม่ว่าจะในลีกเดียวกันหรือต่างลีกกันก็มีให้เห็นกันอยู่ประจำ
การหยิบยืมนักเตะก็เป็นลักษณะ วิน-วิน กันทั้งสองฝ่าย ทีมที่ให้ยืมมักจะเป็นทีมใหญ่ ที่มีทรัพยากรมากมาย หากยังเก็บพวกเขาเหล่านี้ไว้ก็คงมีแต่เสียกับเสีย
เสียอย่างแรกก็คือเสียเงินค่าจ้าง เสียถัดมาก็คือเสียโอกาสในการให้นักเตะได้มีพัฒนาการ ผ่านเกมการแข่งขัน เพราะมัวแต่ติดสนับก้นมากกว่าสนับแข้ง
เสียอีกอย่างก็คือเสียโควตา แทนที่จะมีนักเตะที่อยากได้แต่โควตาเต็ม ก็ต้องมีการผ่องถ่ายให้กับสโมสรอื่นได้หยิบยืมไปใช้งาน
ส่วนสโมสรที่เป็นผู้ยืม ก็ได้หลายอย่าง ทั้งนักเตะที่อาจถูกตั้งค่าฉีกสัญญา แต่ถ้ายืมมาก็ไม่ต้องจ่ายส่วนนี้ หากพอใจจะใช้บริการกันยาว ๆ ก็ว่ากันในภายหลังได้
อีกอย่างก็คือโอกาสที่จะได้ลอง เพราะอย่าลืมว่าเมื่อมาแล้วแบบการซื้อขายกันเรียบร้อย เกิดฟอร์มไม่ดีเทียบกับอยู่ที่เก่า แล้วจะไปอย่างไรกันต่อ
ช่วงยืมตัวนี่แหล่ะจะได้พิสูจน์ว่า ฟอร์มที่เคยดีจนถึงขนาดอยากได้ตัวนั้น พอมาแล้วจริง ๆ จะเป็นดังเช่นที่วาดหวังกันหรือไม่
มาดูนักเตะที่ถูกยืมกันบ้างครับ เริ่มที่ พีที ประจวบ เอฟซี หลังจากที่ได้ “โค้ชโจ” ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น เข้ามาทำทีม ก็ได้ทีมงานที่คุ้นเคยกันทั้ง สุธี สุขสมกิจ วัชรพงษ์ กล้าหาญ และ จักรพงษ์ ใหญ่โต
นอกจากนี้ก็ยังได้ปฏิบัติการยืมนักเตะที่อยู่ในช่วงวัยคะนอง ชินวัฒน์ วงศ์ไชย กองหลังวัยย่าง 26 ปี จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เพชรรัตน์ โชติปาละ วิงแบ็ค วัย 24 ปี จากเมืองทอง ยูไนเต็ด ก่อนหน้าก็ได้ ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม กองหน้า วัย 24 ปี มาจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
เห็นได้ชัดเจนว่า แนวทางของ พีที ประจวบ เอฟซี นั้นจะเดินไปในแนวทางแบบไหนภายใต้การกุมบังเหียนโดย “โค้ชโจ”
ส่วนน้องใหม่ ลำพูน วอริเออร์ ก็ปฏิบัติการยืมตัว 2 นักเตะในวัยคะนองอย่าง เจนรบ สำเภาดี ศูนย์หน้าวัย 27 ปี จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ เจษฎากร ขาวงาม แบ็คซ้ายวัย 25 ปี ของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ส่วน โปลิศ เทโร ก็ปฏิบัติการยืมนักเตะเก่าอย่าง เจนภพ โพธิ์ขี ที่หลังจากย้ายไปร่วมทีม การท่าเรือ เอฟซี ก็ติดสนับก้นมากกว่าสนับแข้ง ทำให้เขาเองต้องการโฮกาสในการลงสนาม และต้นสังกัดเก่าเองก็อยากให้เขากลับมาทำผลงานให้กับทีมอีกครั้ง ดีลนี้ก็เลยเกิด
นี่ก็เป็นตัวอย่างของการปล่อยยืมนักเตะ โดยเฉพาะนักเตะที่ต้องการโอกาสในการลงสนาม กับทีมที่อยู่ในระดับเดียวกัน อย่างน้อยก็ได้เก็บชั่วโมงในสนาม
ปิดท้ายกันที่ข่าวคราวความเคลื่อนไหวในการออกใบอนุญาตเข้าร่วมการแข่งขัน ที่เราคุ้นชื่อกันว่า “คลับไลเซนซิ่ง” โดยเฉพาะในระดับไทยลีก 2 ในประเด็นเกี่ยวกับเกณฑ์ด้านการเงิน
สุดสัปดาห์ก่อนก็มีความชัดเจนออกมาแล้ว 1 ทีมก็คือ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ที่มีข่าวว่าไม่ผ่านคลับไลเซนซิ่ง ในหมวดที่เกี่ยวกับการเงิน ทำให้พวกเขาจะไม่มีชื่ออยู่ในระบบของการแข่งขันไทยลีก 2 ฤดูกาล 2022/23
ทำให้สโมสรฟุตบอลราชประชา ได้รับสิทธิ์ให้ลงทำการแข่งขันแทน ซึ่งก็เป็นไปตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่ได้รับทราบกันมาอยู่ตลอด
ก็จะมีแต่ อุดรธานี เอฟซี เท่านั้นที่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา เนื่องจากยังมีกรณีพิพาทและอยู่ในขั้นตอนในการเคลียร์ให้แล้วเสร็จ ตามกำหนดเวลา 17.00 น. ของวันที่ 16 มิถุนายน
หากมีการแก้ไขประเด็นต่าง ๆ จนแล้วเสร็จ ทางผู้ออกใบอนุญาตก็จะมีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดี จากการได้ผู้บริหารใหม่ เงินทุนใหม่ น่าจะทำให้ทีมเดินหน้าได้ต่อ แฟนบอลก็จะได้มีทีมเชียร์กันต่อไป เป็นผลดีกับทุกฝ่าย
เครดิตภาพ : PT Prachuap FC | Lamphun Warriors | Chonburi Football Club | Police Tero FC | https://www.siamsport.co.th/home | KHON KAEN UNITED
by TTDad