ฮิมสนาม ขอนำสาระดีดีมาฝาก สำหรับนักวิ่งในประเทศเมืองร้อนแบบไทย การวิ่งท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุ แดดเปรี้ยง หรืออบอ้าว อาจส่งผลกระทบและปัญหาต่อร่างกายมากกว่าเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ตั้งแต่เรื่องที่ไม่รุนแรงเช่น เสียเหงื่อมากเกิน อาการขาดน้ำ ตะคริว และรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต นั่นก็คือ “ฮีทสโตรก”
ภาวะฮีทสโตรก คืออาการเจ็บป่วยที่เกิดจากภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจเกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น สภาพอากาศ การดื่มน้ำไม่เพียงพอ หรือ ศูนย์การควบคุมอุณหภูมิในร่างกายผิดปกติ (ภายใน) โดยในหมู่นักวิ่งมักเกิดจากการออกกำลังกายหนักเกินไป ร่วมกับภาวะร่างกายขาดน้ำ (dehydration) ทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิภายในให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ถือเป็น “ภาวะเร่งด่วนทางการแพทย์” ที่ต้องได้รับการรักษาทันที
สัญญาณเตือนภัยฮีทสโตรก
เมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส จะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้ได้ รู้สึกว่าร่างกายร้อน แต่ไม่มีเหงื่อออก โดยมีอาการดังนี้
- ปวดหัว มึนงง
- ภาวะขาดเหงื่อ แม้อยู่ในอากาศร้อน (เหงื่อไม่ออก)
- ผิวแห้งและร้อน
- เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง วิ่งไม่ออก ขาเปลี้ย
- อัตราเต้นของหัวใจผิดปกติ หายใจเร็ว
-สับสน เพ้อ - ชัก หายใจหอบ
- หมดสติ
การรักษาภาวะฮีทสโตรก ก่อนอื่นเมื่อเริ่มรู้สึกว่าอุหณภูมิร่างกายสูงขึ้นจนผิดปกติ ควรลดอุณหภูมิร่างกายและชดเชยน้ำเข้าไปให้เพียงพอ หากคุณเริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ให้หยุดวิ่งและดื่มน้ำ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรพบหน่วยพยาบาล ในกรณีที่เริ่มมีอาการสับสน วูบวาบเหมือนจะเป็นลม ต้องหยุดวิ่งแล้วเรียกหน่วยแพทย์เพื่อปฐมพยาบาลโดยเร็วที่สุด
หากคุณไปซ้อมวิ่งหรือวิ่งแข่งแล้วเจอเพื่อนนักวิ่งเริ่มมีอาการภาวะฮีทสโตรก ควรทำปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยอันดับแรกคือลดอุณหภูมิร่างกายให้เร็วที่สุด นำผู้ป่วยไปในที่มีอากาศเย็นและถ่ายเท จากนั้นใช้น้ำแข็งประคบคอ หลัง เพราะพื้นที่เหล่านี้มีการไหลเวียนของเลือดสูง กระตุ้นให้ร่างกายลดอุณหภูมิลง และเช็ดตัวผู้ป่วยด้วยน้ำเย็น ในกรณีที่เริ่มมีอาการหนักหรือหมดสติให้รีบติดต่อหน่วยแพทย์ นำส่งโรงพยาบาล หรือแจ้งสายด่วนฉุกเฉิน 1669
การบาดเจ็บจากความร้อนสามารถป้องกันได้ 100% สิ่งที่สำคัญคือ อย่าฝืนถ้าไม่ไหวกันน้า
ขอบคุณข้อมูลจาก : การกีฬาแห่งประเทศไทย #SAT
#ฮิมสนาม#ฮิมสนามตั้งวงเล่า#อีซูซุศาลาเชียงใหม่#ChiangmaiFreshmilk#ดาวเรืองตราบ้าน#ทรายป่าห้า