สำหรับ 2 นักเตะที่ ตั้งวงเล่า กล่าวพาดพิง ที่จะมาเปิดใจได้แก่ “บูม” พงศกร ตาคำ มิดฟิลด์มากประสบการณ์ และ “ดีโด้” นพคุณ ขัดตุ่น นายด่านดาวรุ่ง ที่ทั้งคู่กอดคอกันแหวว พา เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ขึ้นมาสู่ T2 ได้สำเร็จ ก็ตัดสินใจจูงมือกันสู่โลกกว้าง หาประสบการณ์ต่างถิ่นจากการชักชวนของ “โค้ชชู” ชูศักดิ์ ศรีภูมิ ที่ระยอง เอฟซี ก่อนจะพาทีมขึ้นมาเล่นไทยลีกได้สำเร็จ แต่ด้วยเหตุการณ์ที่ใครก็ไม่คาดคิด โควิด 19 เข้ามาในระลอกแรกกส่งผลกระทบต่อวงการฟุตบอลไทย ไม่ใช่น้อยทั้ง สโมสรและนักเตะ โดนผลกระทบ แบบไม่มีข้อแม้ พอผ่านช่วงวิกฤติแรกมาได้ ก็มาเจอวิกฤติที่สองของโควิด 19 เมื่อไม่นานมานี้ ยิ่งสาหัสไปกันใหญ่จนเป็นข่าวล่ามาแรงว่าทีม “งดซ้อม” จนกว่าจะเคลียร์เรื่องค่าตัว ให้จบ ตั้งวงเล่า เลยต่อสายตรงเปิดใจคุยกับสองแข้งเชียงใหม่พลัดถิ่นกันว่า พวกเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร
เรื่องรายได้
บูม “นี่คือประเด็นหลักเลยครับความจำเป็นอันดับหนึ่งของชีวิตแต่ที่นี่อย่างน้อยทางสโมสรฯก็ดูแลเรื่องที่พักอาหารการกิน ส่วนค่าใช้จ่ายทำอย่างไรได้ครับ ใครก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เป็นใครก็ตั้งตัวไม่ทันเราก็มีรายได้ทางเดียว ภาระก็ค่อนข้างมากแต่ผมโชคดีที่ยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้างก็ต้องเอาเงินที่เก็บไว้มาแก้ปัญหา แล้วก็ได้รับความช่วยเหลือจากแฟนในช่วงที่ลำบากเพราะแฟนผมเป็นครูมีรายได้ประจำก็พอช่วยได้ครับ”
ดีโด้ “จริงอยู่สโมสรดูแลเรื่องที่อยู่ที่กินพวกเราเป็นอย่างดี แต่ผมก็มีภาระเหมือนกันครับที่จะต้องใช้ต้องจ่าย รายได้ก็ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยแบบนี้ก็ส่งผลกระทบอย่างหนักเลยครับ เราเคยได้รายได้เท่าไหร่ เราก็วางแผนการใช้จ่ายที่เป็นภาระหลักของเราไว้ แต่พอรายได้เราลดลง ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยครับ ก็ต้องพยายามแก้ปัญหากันไปครับ”
เล่นใกล้บ้านกับทีมไม่เล็กไม่ใหญ่ กับการไปเล่นทีมใหญ่ไกลบ้าน คิดว่าอย่างไหนดีกว่ากัน
บูม “ผมเองถามว่าเรื่องการอยู่ไกลบ้านผมออกบ้านตั้งแต่เรียนมัธยมแล้วผมเฉยๆ นะครับ ที่ผมออกมาตรงนี้ก็ด้วยวิถีฟุตบอลพาไป นักเตะทุกคนต่างก็อยากมีประสบการณ์ชีวิตค้าแข้งที่ดี ที่น่าจดจำและเหมือนเป็นการพัฒนาตัวเองอย่างเมื่อก่อนผมเองก็เริ่มจากลีกภูมิภาค จนตอนนี้ผมได้เล่นไทยลีก”
ดีโด้ “ผมเองก็เป็นความใฝ่ฝันของเด็กคนหนึ่งจากที่เคยนั่งดู นั่งเชียร์ ตอนนี้มีโอกาสได้มาลงเล่นเอง เล่นมาตั้งแต่กีฬาแห่งชาติจนก้าวสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ และมีโอกาสได้พาต้นสังกัดก้าวทีละขั้นจนถึงลีกสูงสุดของไทยก็ถือเป็นความภูมิใจของผมครับ นักเตะทุกคนต่างก็มีวิถีทางของแต่ละคนครับ”
รู้สึกอย่างไรเมื่อเจอเรื่องราวแบบนี้
บูม “คิดถึงบ้านอย่างบอกไม่ถูกเลยครับเมื่อก่อนเล่นฟุตบอลใกล้บ้าน รายได้จะมากจะน้อยแค่ไหนอย่างน้อยกลับบ้านได้อยู่กับครอบครัว กลับบ้านก็มีที่นอน มีข้าวกิน ค่าใช้จ่ายส่วนตัวก็ไม่ได้มากมายพูดง่ายๆ ว่ากินอยู่กับบ้านแต่มาอยู่ไกลๆ แบบนี้ทุกอย่างเราต้องมีความรับผิดชอบตัวเองมากขึ้นครับ”
ดีโด้ “ก็คิดถึงบ้านครับ แต่ก็ทำอย่างไรได้ครับในเมื่อเราตัดสินใจแล้วที่จะเดินทางมาตามเส้นทางฟุตบอลของเรา ก็ต้องพร้อมที่จะยอมรับในทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผ่านช่วงนี้ไปอะไรก็น่าจะดีขึ้นมาครับ”
วางเป้าหมายในอนาคตในการเล่นฟุตบอลอย่างไร
บูม “ตัวผมเองผมคิดว่าผมอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ตอนนี้ก็ต้องดูเรื่องสัญญากับทางทีมก่อน ก็ต้องทำหน้าที่ของผม ณ ตรงนี้ให้ดีที่สุดใจผมก็คืออยากจะมีชื่อเล่นอยู่ในทีมT1 แบบยืนระยะนาน ๆ ถ้ามีทีมที่เขาเห็นในความสามารถของผมก็น่าต้องดูในรายละเอียดก่อน แต่ตอนนี้ก็เอาใจช่วยทีมบ้านเกิดของตัวเองให้ได้ขึ้น T1 สักทีมเผื่อจะมีโอกาสได้กลับไปเล่นที่บ้านครับ”
ดีโด้ “ใจผมตอนนี้ผมคิดว่าผมก็ได้มีโอกาสออกมาหาประสบการณ์ให้กับตัวเองในระดับหนึ่งแล้ว ตอนนี้ก็คิดว่าถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปเล่นอยู่ใกล้ๆ บ้านแล้วครับ แล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะทำอย่างไรต่อไปเพราะเส้นทางสายนี้ยังอีกยาวไกลเหมือนกันครับ”
และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ 2 แข้งเชียงใหม่ไกลบ้านกับสถานการณ์ ที่กำลังประสบพบเจอซึ่งไม่ว่าใคร อาชีพอะไร ในช่วงเวลานื้ก็ถือว่าเป็นวิกฤติที่หนีกันไม่พ้น “ตั้งวงเล่า” ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับ“บูม” พงศกร ตาคำ และ “ดีโด้” นพคุณ ขัดตุ่น และรวมถึงทุกท่าน ให้ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน #เราต้องรอด ครับ
เครดิตภาพ : https://www.facebook.com/deedo.krab และ https://www.facebook.com/pongsakorn.takhum