อนุสรณ์ จันสด อายุ 34 ปี แม่โจ้ ยูไนเต็ด
“เจ้าเหม่ง” ได้เข้ามาร่วมทัพในฤดูกาลนี้ และได้รับหน้าที่ค่อนข้างบ่อยในการเฝ้าเสา ซึ่งก็ต้องเบียดกับแข้งดาวรุ่งในทีมอย่าง ศุภวิชญ์ ช่างเหล็ก ซึ่งก็มาบาดเจ็บยาวๆ จึงเป็นหน้าที่ของนายด่านจอมเก๋าที่ต้องรับบทตัวจริงเกือบทั้งฤดูกาล และทำผลงานได้ค่อนข้างดี เซฟช่วยทีมจนสารมารถผ่านขึ้นมาเล่นในรอบแชมเปียนส์ลีกได้
จะว่าไปแล้วในฤดูกาลนี้หลายๆ ทีมจะใช้ผู้รักษาประตูดาวรุ่งเป็นส่วนใหญ่ จะมีเพียงไม่กี่ทีมเท่านั้นที่จะใช้ผู้รักษาประตูวัยเก๋า ที่เห็นบ่อยๆ ครั้งก็จะมี วิชิตชัย รักษา นายด่านวัย 34 ปี ของโรงสีแม่ใจ ธนะโชติวัฒน์ พะเยา ซึ่งหลังๆ มาก็ห่างหายจากการลงสนามไป หรือจะเป็น ปรัชญา กิ่งจันทร์ ของ นครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้ วัย 42 ปี ที่ใส่ชื่อไว้แต่ไม่ค่อยได้ลง
นริศ คล้ายทรัพย์ อายุ 40 ปี พิษณุโลก ยูนิตี้
“จ่าตาล” ผู้ผ่านประสบการณ์ผ่านร้อนหนาวบนเส้นทางลูกหนังมาอย่างโชกโชน ทำให้ป้อมปราการใหญ่ของหนูนาจอมโหดรายนี้ กลายเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้สำหรับทีมไปแล้ว เปรียบประดุจดั่งเครื่องหมายการค้าของ “หนูนาจอมโหด” ไปแล้ว ความนิ่ง เด็ดขาด แน่นอนในการเข้าบอล การเติมเกมรุก เปิดลูกนิ่ง หรือการขึ้นไปทำประตูด้วยการโหม่งอันเป็นเอกลักษณ์ของนักเตะรายนี้ที่มีให้เห็นบ่อยๆ ถือว่ายังครบเครื่อง
อาสาฬห์ เพ็งบ้านไร่ อายุ 39 ปี อุตรดิตถ์ ศักดิ์สยาม เอฟซี
“จ่าจ๊อบ” แผงหลังเลือดเดือด ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นตำนานแข้งโหดมาหลายยุคหลายสมัย ยากที่ใครจะผ่าน แม้ว่าช่วงเข้าสู่วัยเก๋าอาจจะถอดเขี้ยวถอดเล็บไปแล้วบ้าง แต่ก็อย่าได้ไว้วางใจ นอกจากความหนักหน่วงในการสกัดกั้นไม่ให้คู่ต่อสู้ผ่านไปได้ง่ายๆ แล้ว ความได้เปรียบในรูปร่างที่สูงใหญ่ ก็จะใช้ประโยชน์ในการทำประตูด้วยการโหม่ง ซึ่งก็จะหาจังหวะเติมเกมตลอด ยังเป็นกำลังหลักของดาบหักพิฆาตเสมอ
วิชิตนันท์ กรวยทอง อายุ 35 ปี แม่โจ้ ยูไนเต็ด
“เจ้านัน” ถือว่าเป็นอีกแข้งที่อยู่กับทีมมานาน หากจะนับรวมตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยก็ถือว่ายาวนานมากๆ หลังจากที่ “คาวบอยแม่โจ้” ได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว ก็กลับมารับใช้สถาบันอยู่หลายปี จนสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับทีม ด้วยการได้ไปเล่นในรอบแชมเปียนส์ลีก ความแน่นอน ความเสมอต้นเสมอปลาย ความขยัน ยังไม่มีเปลี่ยนแปลง
ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ก็มีนักเตะอีกหลายๆ คน ที่แม้จะอายุมากแต่ก็ยังทำผลงานได้ดีก็มีอยู่บ้าง อย่าง ธนดล ดำพลงาม เซ็นเตอร์ วัย 32 ปี ของโรงสีแม่ใจ ธนะโชติวัฒน์ พะเยา ก็ถือว่าทำผลงานได้ดีเหมือนกัน
เสมอภาค ศรีนนท์ อายุ 33 ปี กงไกลาศ ยูไนเต็ด
“เจ้าหมู” แข้งประสบการณ์ที่ผ่านการเล่นฟุตบอลอาชีพตั้งแต่ครั้งยังเรียนมัธยม ก็อาศัยเก็บเกี่ยวประสบการณ์การเล่นฟุตบอลอาชีพมาทั่วสารทิศ จาก ออก ตก เหนือ ใต้ ไปมาหมด การมาร่วมทัพกับ “ชะโดพิฆาต” ในฤดูกาลนี้ ก็ถือว่ามาถูกที่ถูกเวลาเข้ามาเติมเต็มในส่วนของตำแหน่งริมเส้น มีส่วนช่วยทีมมากในฤดูกาลนี้
ในตำแหน่งแบ็คซ้ายฤดูกาลนี้หลายๆ ทีมนิยมใช้แข้งดาวรุ่งเป็นส่วนใหญ่ จะมีอีกทีมที่พอจะเป็นแข้งเก๋าที่ลงทำหน้าที่บ่อยๆ ก็จะมี “คิว” พลวัฒน์ ปิ่นกอง แข้งวัย 37 ปี ของ “ดาบหักพิฆาต” อุตรดิตถ์ ศักดิ์สยาม เอฟซี
กิติศักดิ์ วรรณทวี อายุ 31 ปี อุตรดิตถ์ ศักดิ์สยาม เอฟซี
“เจ้ากะลา”แม้จะก้าวเข้าสู่เลขสามใหม่ๆ หมาด ๆ เพราะในตำแหน่งนี้ส่วนใหญ่จะใช้แข้งดาวรุ่งเป็นหลัก หรือไม่ก็ยังเป็นแข้งกลางเก่ากลางใหม่วัยยังไม่ถึงเลขสาม ซึ่งในฤดูกาลนี้ถือว่าทำผลงานได้ดีมากๆ ทั้งเปิด ทั้งยิง ทั้งรุก ทั้งรับถือได้ว่าทำได้ดีจนดูโดดเด่นเป็นที่ติดหูติดตาแฟนบอลไปแล้ว
ในตำแหน่งแบ็คขวาที่พอจะดูเด่นไม่แพ้กันก็จะมี “แบงค์” จีราชัย ละดาดก แข้งวัย 32 ปี ของ “ขุนพลนเรศวร” พิษณุโลก เอฟซี ที่ช่วงหลังถูกสลับให้เล่นทางซ้ายบ้าง ขยับขึ้นมาเป็นกองกลางบ้างและ อุเทน เล็กรัตน์ วัย 29 ปี จอมขยัน ของ “หนูนาจอมโหด” พิษณุโลก ยูนิตี้
เพิ่มยศ โตเขียว อายุ 37 ปี นครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้
“เจ้าใหม่” กลับมาช่วยประคับประคองทีมในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง หลังจากย้ายมาจาก นอร์ทเทิร์น นครแม่สอด ยูไนเต็ด ถือว่ามีบทบาทสำคัญกับทีมเป็นอย่างมาก ทำให้ผลงานของทีมดีขึ้นมาพอสมควร ก็ถือว่าทำได้เต็มที่ด้วยวัยขนาดนี้ ชนิดที่ว่าเด็กรุ่นหลังยังต้องอาย
ภูวภัท เนตรทิพย์ อายุ 35 ปี แม่โจ้ ยูไนเต็ด
“เจ้าปัว” อีกหนึ่งแข้งเก๋าจอมตัดเกมแดนกลาง แม้อายุอานามจะเพิ่มขึ้น แต่ความเด็ดขาดแน่นอนไม่ได้ลดหย่อนลงไปเลย ยังคงไว้ใจพึ่งพาได้เสมอ เป็นกองกลางตัวตัดเกมที่บางครั้งก็อาจจะมีสวมบทโหดให้เห็นบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยมีลูกเกเรให้เห็น แบบนี้เรียกว่าแรงในเกม
คมสัน เสือจุ้ย อายุ 34 ปี พิษณุโลก ยูนิตี้
“เจ้ากล้วย” กลายเป็นแข้งเก๋าหัวใจหลักของทีม ที่มักจะเห็นลงสนามทุกนัดหากไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ติดโทษแบน จะต้องมีชื่อแข้งรายนี้เป็นหลักอยู่เสมอ ถือเป็นผู้มีส่วนสำคัญไม่น้อยที่พาทีมประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์พร้อมตั๋วรอบแชมเปียนส์ลีก
ในตำแหน่งกองกลางถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของทีม ดังนั้นจึงมักจะเห็นนักเตะมากประสบการณ์ที่มักจะถูกส่งลงมาช่วยทีมเสมอ ซึ่งหลายๆ ทีมก็จะต้องมีสักคนหนึ่งที่เป็นคนคอยควบคุมเกม อย่าง “เจ้าเอ” พิเชษฐ์ ฮาวกองแก้ว แข้งวัย 39 ปีของ “ดาบหักพิฆาต” อุตรดิตถ์ ศักดิ์สยาม เอฟซี ที่มาร่วมทัพในครึ่งฤดูกาลหลัง หรือ ราเชน กุลคง แข้งวัย 40 ปีของ “หนูนาจอมโหด” พิษณุโลก ยูนิตี้ ที่อยู่กับทีมมาอย่างยาวนาน
ฉัตรชัย นาควิจิตร อายุ 36 ปี พิษณุโลก เอฟซี
“เจ้าหนุ่ม” ในฤดูกาลนี้อาจจะได้ลงไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ถ้าได้ลงเมื่อไหร่เรียกได้ว่าทีมต้องมีเฮ กองหลังฝั่งตรงข้ามต้องมีเหนื่อย ด้วยลูกเล่นอันแพรวพราว การหาพื้นที่ในการทำประตูแบบหาตัวจับยาก นอกจากจะยิงเองแล้ว การเปิดบอลให้เพื่อนร่วมทีมเข้าทำก็หลายครั้งหลายครา ถือว่ายังมีความน่ากลัวอยู่ไม่น้อย
อภิสิทธิ์ ประคองพันธ์ อายุ 33 ปี เขลางค์ ยูไนเต็ด
“จ่าแซม” กองหน้าผู้มาๆ หายๆ อาจจะมาไม่บ่อยแต่ผลงานใช่ย่อย ยิงไปหลายประตูเหมือนกัน เหมือนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมอยู่รอดปลอดภัยได้ไปต่อใน ไทยลีก 3 โซนเหนือ ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบอาจจะทำให้หายหน้าหายตาไปบ้าง แต่ก็ยังฝากผลงานไว้ให้หลายคนจำ
ในตำแหน่งกองหน้าจอมเก๋าอีกหลายๆ รายที่ยังมีชื่อเล่นอยู่ในหลายๆ ทีมอาจจะลงสนามมาให้แฟนบอลหายคิดถึงบ้างอย่าง “เจ้าบอล” ศรันย์ ศรีเดช วัย 37 ปี ของโรงสีแม่ใจ ธนะโชติวัฒน์ พะเยา หรือจะเป็น “โค้ชยิ่ง” นันทวัฒน์ แทนโสภา วัย 40 ปี ของ เชียงราย ซิตี้ ที่สวมบทบาททั้งโค้ชและผู้เล่น
ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันของฟุตบอล ปุ๋ยรุ่งอรุณลีก ไทยลีก 3 โซนเหนือ ที่มีนักเตะที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ดาวค้างฟ้า” มาโชว์ผลงานให้แฟนบอลได้เห็นว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข กาลเวลาไม่อาจทำร้ายพวกเขาได้ ยังคงสามารถลงสนามต่อสู้กับแข้งรุ่นหลังๆ ได้อย่างไม่เกรง ไม่กลัว และหลายๆ คนก็เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับแข้งรุ่นหลังได้จดจำในสิ่งดีๆ เอาไว้เป็นหลักในการเดินทางบนเส้นทางสายลูกหนังต่อไป